“ระวังการ์ดตก”

คอลัมน์ : หน้าบ้าน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เขียนได้เข้าไปจับจ่ายที่ห้างแห่งหนึ่ง พบเห็นบรรดาลูกค้าหลายคน ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่น ไม่ยอมเช็คอิน  ไม่เว้นระยะห่าง ยังดีที่ส่วนมากสวมใส่หน้ากากอนามัย ขณะที่เกิดจุดอ่อนในห้างหลายจุด ที่ลูกค้าเดินเข้าออกโดยไม่ผ่านการคัดกรอง 

ดูเหมือนว่าผู้คนต่างเชื่อมั่นในศักยภาพของการสาธารณสุขไทย เมื่อรวมร่ายงานข่าวที่ออกมาว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ และผู้เสียชีวิต รวมไปถึงการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ อาจทำให้ผู้คนหย่อนยานต่อระเบียบที่ควรทำระหว่างสถานการณ์โรคระบาดไปได้บ้าง 

สำหรับชุมชนมุสลิม มัสยิดหลายแห่งค่อนข้างเข้มงวด แต่สมาชิกที่เข้าร่วมละหมาดอีกหลายท่านไม่นำพาผ้าปูละหมาดมาด้วย  ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย และการสัมผัสมือกัน เริ่มมีให้เห็น 

ที่กล่าวมานี้มีรายงานยืนยันจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ถึงผลสำรวจการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระหว่างมาตรการผ่อนปรน พบว่า ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศพฤติกรรมป้องกันตนเองอยู่ที่ 0.84 จากคะแนนเต็ม คือ 1 แต่หากแยกเฉพาะเรื่อง โดยเรื่องหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย อยู่ที่ 0.92 กินร้อนช้อนกลางตัวเอง 0.90 ล้างมือ 0.88 ไม่อยู่ใกล้คนอื่นน้อยกว่า 2 เมตร 0.79 และระวังไม่เอามือไปจับหน้าจมูกอยู่ที่ 0.73 เมื่อดูตามช่วงเวลา ตั้งแต่ 17 พ.ค. ที่ผ่อนคลายระยะที่ 2 ถึงวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่อนคลายระยะที่ 5 แต่ละพฤติกรรมความร่วมมือแต่ละด้านถือว่าลดลงทุกพฤติกรรม ทั้งใส่หน้ากาก ล้างมือ กินร้อนช้อนกลาง อย่างภาพรวมวันที่ 17 พ.ค. อยู่ที่ 85.3% เมื่อถึง 1 ก.ค. เหลือ 80.7% 

หากถามว่าการ์ดตกหรือไม่ เห็นชัดว่าการ์ดตกแน่นอน ดังนั้น เราจึงต้องอดทนรักษาระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสมือกันและกัน อย่างน้อยก็ป้องกันตนเองไว้ก่อน  เพื่อไม่ให้ โอกาสของการระบาดรอบสอง กลับมาเร็วเกินไป 


จาก : 
วารสารสุขสาระ ฉบับที่ 197 เดือน สิงหาคม 2563

ความคิดเห็น