“อึ” บอกโรค

“อึ” บอกโรค 

สีและลักษณะของอุจจาระจะมีความแตกต่างกันตามประเภทของอาหารและปริมาณน้ำที่เราบริโภคแต่ละวัน ในบางครั้งสีและลักษณะของอุจจาระ ยังบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหลังจากถ่ายอุจจาระแล้วลองหมั่นสังเกตดูรูปร่างหน้าตาและสีสันของอุจจาระดู เป็นการตรวจสอบสุขภาพของตัวเองแบบง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้

สำหรับคุณที่มีอุจจาระเป็นสีน้ำตาลและเหลือง หมายถึง สีอุจจาระของคนสุขภาพดี การทำงานของระบบย่อยและทางเดินอาหารเป็นปกติ อุจจาระ ที่สีค่อนไปทางน้ำตาลอาจเกิดจากน้ำดีในตับที่ทำหน้าที่ระหว่างการย่อยอาหาร 

แต่ถ้าอุจจาระเป็นสีเหลืองจางๆ มีความมันและกลิ่นเหม็น อาจเกิดจากไขมันส่วนเกินที่อยู่ในอุจจาระ ซึ่งบ่งบอกว่าน้ำดีมีปัญหา หรือเป็นสัญญาณของความผิดปกติในระบบย่อยหรือระบบดูดซึมอาหารของลำไส้ หากเป็นติดต่อกันหลายวัน  ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย

หรือถ้าคุณบริโภคผักใบเขียวปริมาณมากอาจทำให้อุจจาระเป็นสีเขียว แต่หากมีอุจจาระเหลวร่วมด้วย อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคท้องร่วง หรือทั้งนี้เกิดจากการทานยาบางชนิดก็เป็นได้

สีดำ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารส่วนต้น โดยเฉพาะหากมีสีดำเข้มเหมือนยางมะตอย ควรต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจระบบทางเดินอาหาร ยิ่งไปกว่านั้นหากอุจจาระเป็นสีดำบ่อย ๆ โดยไม่ทำการรักษา นั่นอาจหมายถึงคุณกำลังเผชิญอยู่กับมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ในบางกรณี สีดำของอุจจาระอาจเกิดจากการทานอาหารหรือยาบางชนิด  เช่น ตับหรือเลือด ข้าวเหนียวดำ ลูกหม่อน ยาบำรุงเลือดที่มีธาตุเหล็ก หรือยาแก้ท้องเสียบางชนิด

ประมาณ 90% ของอุจจาระสีแดงไม่ได้มีสาเหตุมาจากเลือด แต่อาจเกิดจากอาหารที่บริโภคเข้าไป เช่น บีทรูท  กระเจี๊ยบ มะละกอ แตงโม  หรือเครื่องดื่มสีแดงในปริมาณมาก แต่หากอุจจาระเป็นสีแดงมีเลือดปน  มักเกิดจากริดสีดวงทวาร  หรืออาจเป็นสัญญาณของการมีเลือดออกทางเดินอาหารส่วนล่าง เช่น ถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ หรืออาจมีเนื้องอก

สีเทาเข้มอาจเกิดจากมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารส่วนต้น หรือรับประทานธาตุเหล็กบำรุงเลือดเช่นเดียวกับอุจจาระสีดำ แต่หากเป็นสีเทาอ่อนคล้ายขี้เถ้า คือสัญญาณเตือนถึงภาวะตับหรือตับอ่อนมีปัญหา นอกจากนี้การที่อุจจาระเป็นสีเทาอ่อนจางเกือบขาว  อาจบ่งชี้ว่าท่อน้ำดีอุดตันส่งผลให้อุจจาระขาดน้ำดี หรือกำลังมีปัญหาที่ตับอ่อน  รวมถึงอาจเกิดจากผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิดมากเกินไป

รูปร่าง อุจจาระ

ก้อนเล็ก แข็ง คล้ายลูกกระสุน หรือขี้กระต่าย มักเกิดในผู้มีอาการท้องผูก เนื่องจากอุจจาระแห้ง เคลื่อนผ่านลำไส้ได้ยาก หรืออาจเพราะมีอุจจาระค้างในลำไส้เป็นเวลานาน  สาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยไม่เพียงพอ และดื่มน้ำน้อย หรือรับประทานยาที่ส่งผลให้ท้องผูก หากไม่รีบแก้ไขอาจทำให้มีอาการท้องผูกเรื้อรัง และอาจกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ในที่สุด

ก้อนเล็ก ๆ หลายก้อนรวมกัน คล้ายเอาลูกกระสุนมาโปะรวมกัน มองเห็นก้อนเล็ก ๆ แข็ง ๆ มารวมกันอย่างชัดเจน เป็นลักษณะของอาการท้องผูกเช่นกัน  ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีกากใยเพิ่มขึ้น ดื่มน้ำให้พอเพียง หมั่นออกกำลังกาย ขยับร่างกาย และไม่เครียดจนเกินไป ก็จะช่วยไม่ให้อุจจาระกักอยู่ในลำไส้นานจนเกิดอาการท้องผูก

อึ คล้าย อึกระต่าย มักเกิดในผู้มีอาการท้องผูก

ทรงรียาวคล้ายไส้กรอก ผิวขรุขระ ค่อนข้างแข็ง ขับถ่ายได้ไม่ลำบากนัก เป็นอุจจาระที่ปกติแต่ค่อนข้างขาดน้ำ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น

เป็นลำสวยผิวเรียบคล้ายกล้วยหอม ไม่แข็งหรืออ่อนยุ่ยจนเกินไป   ถือว่าเป็นรูปทรงอุจจาระที่สมบูรณ์และสุขภาพดีที่สุด

แตก ๆ แต่เป็นชิ้นสั้น ๆ ขับถ่ายง่าย ยังนับว่าเป็นอุจจาระคุณภาพดี แต่อาจขาดสารอาหารหรือกากใย เนื่องจากการลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหาร

กึ่งเหลวกึ่งก้อน เปื่อยยุ่ย ขับถ่ายง่ายมาก อาการเริ่มต้นของท้องเสีย หรือเนื่องจากแบคทีเรียในลำไส้ไม่สมดุล หากถ่ายเหลวบ่อย ๆ อาจส่งผลให้ขาดน้ำ หรือสารอาหารที่จำเป็น   ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงเพิ่มโยเกิร์ตเพื่อปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้

เหลวเป็นน้ำ อาการท้องเสีย ที่อาจหมายถึงมีการติดเชื้อในลำไส้ ควรรับประทานเกลือแร่และจิบน้ำบ่อย ๆ หากเป็นติดต่อกันมากกว่า 1 วัน ควรรีบพบแพทย์

หากพบว่าอุจจาระมีสีผิดปกติ ควรหยุดบริโภคอาหารที่ทำให้เกิดสีดังกล่าว แล้วลองสังเกตสีของอุจจาระภายใน  2-3 วัน  หากยังคงผิดปกติอยู่ ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย  รวมไปถึงการที่อุจจาระมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เช่น ลำเล็กลงจากเดิม หรือกลายเป็นเม็ดเล็ก ๆ ก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหรือตรวจด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) เพิ่มเติม นอกจากนี้การตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอก็มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคไม่ให้รุนแรงหรือพบโรคเมื่อสายเกินไป

อึ- คล้ายกล้วยหอม ถือว่า สุขภาพดี



ข้อมูล
https://www.samitivejhospitals.com/th
https://www.pobpad.com


จากสุขสาระ ฉบับที่ 198 เดือนกันยายน 2563
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

ความคิดเห็น