สมุนไพรช่วยเลิกบุหรี่
บุหรี่ ตัวการสำคัญของปัญหาสุขภาพและยังส่งกระทบทางลบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ปัญหาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ จัดเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญของโลก การสูบบุหรี่ ไม่ใช่แค่ทำร้ายสุขภาพของผู้สูบ ยังทำร้ายผู้ที่สูดดมควันจากบุหรี่ หรือที่เรียกว่า ควันบุหรี่มือสอง ซึ่งควันจากบุหรี่ทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ เป็นสาเหตุสำคัญ ในการเกิดโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหลอดลมอักเสบ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง หรืออัมพฤกษ์ อัมพาต และหากติดเชื้อไวรัสโควิค-19 เข้าไปอีก จะทำให้เกิดอาการปอดอักเสบอย่างรุนแรงได้
จากรายงานสถิติการบริโภคยาสูบของประเทศไทย พ.ศ.2561 ของศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของประชากรไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ในปี พ.ศ.2560 ถึง 10.7ล้านคนและในช่วงปี พ.ศ.2547-2560 อัตราการสูบบุหรี่มีแนวโน้มลดลง
การศึกษาวิจัยและทบทวนวรรณกรรม พบว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องหรืออิทธิพลที่มีผลต่อการสูบบุหรี่ของประชากรวัยผู้ใหญ่ (สุนิดา ปรีชาวงษ์, 2554) สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
ปัจจัยด้านคุณลักษณะทางประชากร ได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา รายได้
ปัจจัยด้านการสูบบุหรี่ ได้แก่ อายุที่เริ่มสูบบุหรี่ ภาวะติดนิโคติน จำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน ระยะเวลาที่สูบบุหรี่มวนแรกหลังตื่นนอน จำนวนครั้งที่เคยพยายามเลิกสูบ และระยะเวลาที่เคยเลิกสูบบุหรี่
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องทางด้านสรีระ พบว่าการเสื่อมสมรรถภาพของปอดและดัชนีมวลกายมีความสัมพันธ์กับการเลิกบุหรี่ และจิตวิทยาสังคม พบว่าอิทธิพลทางบวก ได้แก่ ความพร้อมและความตั้งในที่จะเลิกบุหรี่ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน อิทธิพลทางลบ ได้แก่ ภาวะซึมเศร้าและภาวะเครียด
เมื่อติดบุหรี่แล้วการจะเลิกมักทำได้ยาก เพราะสารนิโคตินจะดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตและผ่านไปยังสมองอย่างรวดเร็วผู้สูบจึงรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลลงได้ในทันทีและมีผลระยะสั้นเท่านั้น เมื่อระดับนิโคตินลดลง หากต้องการความสบายจึงกลับมาสูบอีกจนกลายเป็นการเสพติดในที่สุด ดังนั้นสิ่งที่สำคัญของผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ควรระมัดระวัง คืออาการถอนยาหรืออาการขาดนิโคติน ซึ่งจะเริ่มภายใน 4-6 ชั่วโมงหลังการหยุดบุหรี่ โดยผู้สูบจะมีอาการดังนี้ คือ
อาการด้านอารมณ์และจิตใจ ได้แก่ อยากยา ซึมเศร้า วิตกกังวล กระวนกระวาย หงุดหงิด อารมณ์เสียง่าย สมาธิลดลง นอนไม่หลับ
อาการด้านร่างกาย ได้แก่ หัวใจเต้นช้าลง อยากอาหาร น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ไม่มีเรี่ยวแรง ปวดศีรษะ ท้องผูก เหงื่อออก เป็นต้น
วิธีการสำหรับการเลิกบุหรี่นั้นสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งโดยการใช้ยาและไม่ใช้ยา เช่น
- วิธีหักดิบ หรือเลิกด้วยตัวเองโดยการหยุดสูบบุหรี่ทันที ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดอาการขาดนิโคตินและกลับไปสูบใหม่ภายใน 1 สัปดาห์
- การใช้พฤติกรรมบำบัด เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยชิน เช่น หลีกเลี่ยงสถานที่หรือช่วงเวลาที่เคยสูบบุหรี่ประจำ รวมถึงหลีกเลี่ยงอารมณ์ที่ทำให้เกิดความอยากสูบ
- การใช้ยาช่วยเลิกบุหรี่ โดยปัจจุบันมียา 2 กลุ่ม ได้แก่ ยาที่มีสารนิโคตินทดแทนในขนาดต่ำในรูปแบบของหมากฝรั่งอดบุหรี่ หรือแผ่นแปะผิวหนังนิโคติน กับยาชนิดเม็ดที่ไม่มีนิโคตินสำหรับช่วยลดอาการถอนยาเนื่องจากขาดนิโคติน
- การแพทย์ทางเลือก เช่น ยาสมุนไพร การนวดกดจุดสะท้อนเท้า หรือการฝังเข็มเพื่อช่วยลดอาการอยากและคลายความหงุดหงิด รวมถึงโภชนบำบัด
สำหรับการเลือกใช้ศาสตร์การแพทย์ทางเลือกเพื่อเป็นตัวช่วยในการเลิกบุหรี่ที่ได้รับความนิยมและมีการวิจัยอย่างแพร่หลายถึงประสิทธิภาพในการช่วยเลิกบุหรี่ ได้แก่
สมุนไพรหญ้าดอกขาว (Cyanthillium cinereum (L.) H.Rob.) ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2555 ในกลุ่มยาพัฒนาจากสมุนไพรที่ช่วยลดความอยากบุหรี่ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า หากใช้สมุนไพรหญ้า ดอกขาวติดต่อกันนาน 2 เดือน สามารถช่วยทำให้เลิกสูบบุหรี่ได้ถึง 60% และหากใช้ร่วมกับการออกกำลังกาย จะสามารถช่วยเลิกสูบบุหรี่ได้มากขึ้น และหลังการรักษาด้วยสมุนไพรหญ้าดอกขาวเป็นระยะเวลา 4 เดือน ผู้ติดบุหรี่มีอัตราการเลิกสูบบุหรี่ได้ถึง 70%
![]() |
หญ้าดอกขาว |
โดยเหตุผลสำคัญของการเลิกสูบบุหรี่ คือ ชาลิ้น กินอาหารไม่อร่อย ไม่รู้สึกอยากบุหรี่ รู้สึกเหม็นกลิ่นบุหรี่ เมื่อสูบแล้วรู้สึกอยากอาเจียน แต่ในกลุ่มผู้ที่ไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้จากการใช้หญ้าดอกขาวให้เหตุผลว่า การดื่มชาสมุนไพรชนิดนี้ก็เหมือนกับการดื่มน้ำธรรมดา โดยไม่มีอาการใด ๆข้อมูลฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของหญ้าดอกขาวที่มีส่วนช่วยลดความอยากบุหรี่ ได้แก่สารสำคัญที่ต้น ใบ และรากของหญ้าดอกขาว คือ Sodium nitrate ทำให้ลิ้นชา ช่วยลดอาการอยากบุหรี่ได้ ยังช่วยทำให้สมรรถภาพทางกายดีขึ้นอีกด้วย เลือดจะมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น ทำให้มีปริมาณของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่คั่งค้างในปอดลดลงอย่างชัดเจน และที่สำคัญผลข้างเคียงของการเลิกบุหรี่ด้วยวิธีนี้ก็มีน้อยมาก (เช่น มีอาการกระวนกระวาย หงุดหงิดง่าย สมาธิแปรปรวน) และการศึกษาด้านความปลอดภัยของผู้ที่รับประทานหญ้าดอกขาวในรูปแบบยาลดความอยากบุหรี่พบว่าสมุนไพรชนิดนี้มีความปลอดภัยสูง แต่ควรอ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยยาชนิดนี้อาจส่งผลข้างเคียงทำให้ปากแห้งและคอแห้งได้
ข้อควรระวัง สมุนไพรชนิดนี้มีโพแทสเซียมเป็นส่วนประกอบในปริมาณสูง ผู้ป่วยโรคหัวใจหรือไตวายควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจรับประทานเสมอ
วิธีการใช้ที่แนะนำ ชงเป็นชาดื่มครั้งละ 2 กรัม ผสมกับน้ำร้อน 120-200 มิลลิลิตร แช่ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วดื่มหลังอาหารวันละ 3-4 ครั้ง หรือเคี้ยวหรืออม ก้าน ใบ ขณะที่มีอาการอยากบุหรี่
![]() |
ชาสมุนไพรหญ้าดอกขาว |
ยังมีสมุนไพรอื่น ๆ ที่แนะนำจากคู่มือทางเลือกเพื่อลด ละ เลิกบุหรี่ เช่น
มะนาว ผลไม้เปรี้ยวจัด มีวิตามินซีสูง เปลือกมีรสเผื่อน ขม ซึ่งวิตามินซีในมะนาวจะช่วยเปลี่ยนรสชาติ ของบุหรี่ให้เฝื่อน ทำให้ไม่อยากสูบบุหรี่และลดอาการอยากนิโคตินได้ อีกทั้งยังช่วยขจัดคราบบุหรี่ได้อีกด้วย
วิธีการใช้ หั่นมะนาวติดเปลือกเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ เมื่อมีความรู้สึกอยากบุหรี่ให้กินมะนาวแทน โดยอมแล้วค่อย ๆ ดูดความเปรี้ยว จากนั้นเคียวเปลือกอย่างช้า ๆ 3-5 นาที
กานพลู เนื่องจากกานพลูมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ การอมดอกกานพลูจะทำให้รู้สึกชาปากเล็กน้อย และน้ำมันหอมระเหยของกานพลูยังช่วยทำให้ประสาทสลบ นอนหลับสบาย ช่วยระงับและดับกลิ่นปากอีกด้วย
![]() |
กานพลู |
วิธีการใช้ ใช้ดอกตูมแห้งประมาณ 3 ดอก ทำให้ปากชาแก้ความอยาก และช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น และช่วยลดระงับกลิ่นปากลงได้
มะขามป้อม มะขามป้อมมีปริมาณของวิตามินซีและแทนนินสูง มะขามป้อมมีรสเปรี้ยว ฝาด ดังนั้นจึงมีฤทธิ์ทำให้รสของบุหรี่เปลี่ยนไปและรู้สึกไม่อยากบุหรี่ อีกทั้งช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นในผู้สูบบุหรี่ที่มีภาวะสูญเสียวิตามินในร่างกาย
![]() |
มะขามป้อม |
โปร่งฟ้า เนื่องจากใบโปร่งฟ้ามีสารคาร์บาโซลที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง สามารถลดน้ำตาลในกระแสเลือด และช่วยในการเลิกบุหรี่ เพราะใบมีรสชาติหวานเมื่อสูบบุหรี่จะทำให้รสชาติบุหรี่เปลี่ยนไป ทำให้รู้สึกพะอืดพะอม อยากจะอาเจียน และไม่อยากสูบบุหรี่อีก
![]() |
โปร่งฟ้า |
วิธีการใช้ นำใบโปร่งฟ้าสด 1-2 ใบ เคี้ยวเวลาเกิดอาการอยากสูบบุหรี่
รางจืด สมุนไพรรางจืดถูกนำมาใช้สำหรับล้างพิษในร่างกายจากการได้รับสารเคมี ซึ่งพบว่าสารสกัดน้ำจากใบรางจืดจะช่วยล้างสารพิษนิโคตินในตับ โดยใช้ได้ทั้งส่วนที่เป็นใบ ราก หรือเถา
![]() |
รางจืด |
วิธีการใช้ เลือกใบรางจืดที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป โขลกให้แหลกผสมน้ำซาวข้า (เพราะน้ำซาวข้าวจะช่วยให้ฤทธิ์ยาแล่นเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว) คั้นเอาแต่น้ำดื่ม ซึ่งจะมีความเข้มข้นสูง หรือใช้ใบสด 4-5 ใบ ฉีก และชงในน้ำร้อนดื่ม
ข้อควรระวัง การกินรางจืดไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 7 วัน เพราะมีผลต่อตับ และควรดื่มน้ำมะพร้าว เพื่อช่วยรักษาวิตามินในร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจอยากจะเลิกบุหรี่ สามารถขอคำแนะนำหรือรับบริการได้ที่โรงพยาบาลที่มีการให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยกว่า 500 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งสามารถติดต่อใช้บริการ ได้ตามสถานพยาบาลใกล้บ้านท่าน และท่านที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล สามารถติดต่อที่โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน สอบถามข้อมูลได้ที่ 0 2224 3261-3
https://www.gj.mahidol.ac.th/main/ttm/smoke-cess/
https://www.hfocus.org/content/2020/05/19460
จากสุขสาระ ฉบับที่ 202 เดือนมกราคม 2564
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น