สมุนไพรช่วยลดน้ำหนัก

การมีรูปร่างที่ดีและแข็งแรงคือสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่หลายคนไม่เป็นดังฝัน แม้บางคนจะหันไปพึ่งอาหารเสริม แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป อยากมีรูปร่างดังฝัน ก็ต้องรู้จักควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

หนึ่งในโภชนาการที่ทำให้ "ลดน้ำหนัก" ได้ก็คือ "สมุนไพร" พืชผักไทยๆ แต่สรรพคุณเหลือหลาย ทั้งในแง่รักษาสุขภาพ ป้องกันโรคภัย รวมถึงสรรพคุณด้านการ "ลดน้ำหนัก"

วันนี้ขอเสนอสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการลดไขมันมาให้ดูดังนี้

1.ส้มแขก เนื่องจากผลส้มแขกมีกรดไฮดรอกซีซิตริก (HCA)  ช่วยกระตุ้นให้มีการดึงเอาไขมันที่สะสมในร่างกายออกมาใช้เป็นพลังงาน ส่วนใหญ่นิยมทำเป็นเครื่องดื่มโดยระยะแรกอาจจะทำให้รู้สึกหิวบ่อยมากขึ้น เนื่องจากไปเร่งระบบการเผาผลาญอาหาร โดยร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวไปเอง ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกอยู่ ก็เว้นไว้ก่อนจนกว่าจะหย่านม

ส้มแขก

2.มะนาว เป็นพืชสมุนไพรยอดนิยมที่นำมาใช้ในการลดน้ำหนัก แถมสูตรในการลดน้ำหนักด้วยน้ำมะนาวก็ยังมีหลากหลาย  เหตุผลที่น้ำมะนาวสามารถลดความอ้วนอย่างได้ผลก็เป็นเพราะมะนาวมีกรดต่าง ๆ ซึ่งช่วยในการสลายไขมัน นอกจากนี้มะนาวยังมีวิตามินซีสูง เมื่อได้รับเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ไขมันในร่างกายลดลง ระดับไตรกลีเซอไรด์ก็จะเป็นปกติ ไขมันเลวจะลดลงและช่วยให้ไขมันดีเพิ่มขึ้น แถมมะนาวยังมีไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มและลดความอยากอาหารได้ 

มะนาว

ข้อแนะนำ - หลังตื่นนอนให้ดื่มน้ำมะนาวเป็นอันดับแรก โดยบีบมะนาว 1 ลูก ลงในน้ำอุ่น 1 แก้ว แนะนำให้ดื่มเป็นประจำทุกวัน เพราะมะนาวจะช่วยดีท็อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย และเผาผลาญไขมันในลำไส้ได้เป็นอย่างดี ทำให้สาวๆ ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยลดน้ำหนักลงได้ นอกจากนี้ในมะนาว ยังมีวิตามินซีอยู่มากที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ รวมถึงขับเสมหะ แก้ไอ และเลือดออกตามไรฟันด้วย

3.เม็ดแมงลัก แม้ว่าเม็ดแมงลักจะไม่ได้มีสารอาหารที่ช่วยในการลดความอ้วนโดยตรง แต่เม็ดแมงลักก็สามารถช่วยในการควบคุมอาหารได้ เพราะเม็ดแมงลักเป็นพืชที่ไม่ก่อให้เกิดพลังงาน แถมยังสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่า หากนำมารับประทานก่อนอาหารก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง และช่วยให้ทานอาหารได้น้อยลง  นอกจากนี้เม็ดแมงลักยังสามารถรับประทานได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ปลอดภัยต่อหญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตรอีกด้วย

เม็ดแมงลัก

ข้อแนะนำ 
- ควรนำเม็ดไปแช่น้ำให้พองจนเต็มที่ก่อน ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ท้องอืดและท้องผูกแทน
- ไม่ควรกินเม็ดแมงลักทุกมื้อ เพราะจะทำให้เราได้สารอาหารอื่น ๆ ไม่เพียงพอ แนะนำให้กินเฉพาะมื้อเย็น
- ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการกินเม็ดแมงลัก ต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และการควบคุมอาหารด้วย เนื่องจากเม็ดแมงลักไม่ได้ช่วยเรื่องการเผาผลาญแต่อย่างใด

4.พริก ขึ้นชื่อในเรื่องความเผ็ดร้อน ทำให้รสชาติอาหารของคุณมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ลึก ๆ แล้ว พริกยังมีสรรพคุณอีกมากมาย ที่เหมาะมากกับคนที่กำลังลดความอ้วนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยดีท็อกซ์ของร่างกาย ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอลในร่างกาย ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระเลือดลดลง หรือใช้สารสกัดจากแคปไซซินมาสกัดเป็นเจลเพื่อใช้ในการนวดลดเซลลูไลท์ สลายไขมัน นอกจากนี้ยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัยอีกด้วย 

พริก

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พริกจะช่วยลดความน้ำหนักได้ แต่ก็ต้องรับประทานเป็นจำนวนมากถึงจะได้รับสารอาหารที่อยู่ในพริกเพียงพอ ดังนั้นถ้าหากต้องการใช้พริกช่วยในการลดความน้ำหนัก มีข้อแนะนำให้รับประทานพริกในรูปแบบของสารสกัดจะดีกว่าทานแบบสด ๆ ที่อาจทำให้ท้องอืด ปวดท้อง เป็นโรคกระเพาะได้อีกต่างหาก

5.ถั่วขาว มีใยอาหารสูงทำให้รู้สึกอิ่มได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ขับถ่ายได้เป็นปกติ โดยสารสกัดในถั่วขาว ที่ชื่อว่าฟาซีโอลามิน (Phaseolamin) มีส่วนช่วยในการยับยั้งกระบวนการย่อยสลาย ทำให้การย่อยแป้งใช้ระยะเวลานาน และถูกขับออกจากทางร่างกาย เมื่อร่างกายได้รับแป้งน้อยลง น้ำหนักตัวก็จะลดน้อยลงตามไป นอกจากนี้ยังช่วยลดการสะสมของไขมันใหม่อีกด้วย

ถั่วขาว

อย่างไรก็ดี การใช้สมุนไพรหรือยาใด ๆ อย่าตั้งความหวังให้สูงมากไป เพราะเรื่องน้ำหนักตัวและไขมันส่วนเกินนั้นมาจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบไม่ดูแลตัวเอง ขาดความเอาใจใส่ในการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ถ้าดูแลเรื่องดังกล่าวได้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือแม้แต่สมุนไพรใด ๆ เลย

ที่มา
https://women.mthai.com/beauty/health/246746.html
https://www.thairath.co.th/women/beauty/health/1687936
https://health.kapook.com/view97268.html
https://www.sanook.com/health/11081/

จากสุขสาระ ฉบับที่ 203 เดือนกุมภาพันธ์ 2564

ความคิดเห็น