ควันบุหรี่มือสองเป็นอันตรายต่อเด็ก ตอน 2

ควันบุหรี่มือสองทำให้เกิด SIDS โรคไหลตายในทารก

เด็ก ๆ มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กมีน้ำหนักน้อยแต่มีอัตราการเผาผลาญอาหารสูงกว่าและหายใจเร็วกว่า นอกจากนี้ เด็กยังอยู่ในช่วงวัยที่เนื้อเยื่อต่างๆ กำลังพัฒนา เมื่อได้รับสารพิษในปริมาณเท่ากัน สารเหล่านี้ก็จะเข้าสู่ร่างกายและก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะของเด็กได้ง่ายและมากกว่าผู้ใหญ่

  • การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเด็กที่พ่อแม่สูบบุหรี่ จะมีอาการป่วยบ่อยขึ้น ปอดของพวกเขาเติบโตน้อยกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่สูบบุหรี่ และจะเป็นโรคหลอดลมอักเสบและปอดบวมมากกว่า
  • ปัญหาการหายใจไม่ออกและไอพบได้บ่อยในเด็กที่สูดดมควันบุหรี่มือสอง
  • ควันบุหรี่มือสองสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคหอบหืดในเด็กได้ เด็กที่เป็นโรคหอบหืดและได้รับควันบุหรี่มือสองจะมีอาการหอบหืดรุนแรงและบ่อยขึ้น โรคหอบหืดที่รุนแรงอาจทำให้ชีวิตของเด็กตกอยู่ในอันตรายได้
  • เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีผู้สูบบุหรี่จะเสี่ยงอย่างมากต่อการเป็นโรคในหูชั้นกลาง ซึ่งเกิดจากการสร้างของเหลวที่มากขึ้นในบริเวณท่อเชื่อมระหว่างหูชั้นกลางกับลำคอส่วนบน (หลังเยื่อแก้วหู) เมื่อของเหลวดังกล่าวมีมากก็เกิดการอักเสบ บวมแดง ติดเชื้อ และจะทำให้มีปัญหาต่อการได้ยิน
  • เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีผู้สูบบุหรี่อาจมีความบกพร่องในการรับกลิ่น
  • ผู้ปกครองสามารถช่วยป้องกันบุตรหลานจากควันบุหรี่มือสองได้โดยดำเนินการดังต่อไปนี้:
  • ไม่อนุญาตให้มีการสูบบุหรี่ในบ้านหรือบริเวณบ้านของคุณ
  • อย่าให้ใครสูบบุหรี่ในรถของคุณ
  • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนสูบบุหรี่ และไม่อยู่ใกล้เขตสูบบุหรี่

ควันบุหรี่มือสองทำให้เกิด SIDS

โรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือโรคไหลตายในทารก สามารถทำให้ทารกเสียชีวิตเฉียบพลันขณะนอนหลับ SIDS เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของทารกที่มีสุขภาพดี โรคไหลตายในทารก (SIDS) จะส่งผลกระทบต่อเด็กทารกในช่วงอายุ 6 เดือนแรก และมีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในเด็กวัย 2-3 เดือน


ควันบุหรี่มือสองเพิ่มความเสี่ยงสำหรับ SIDS

  • การสูบบุหรี่ของแม่ในระหว่างตั้งครรภ์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อ SIDS
  • ทารกที่ได้รับควันบุหรี่มือสองหลังคลอดก็มีความเสี่ยงต่อ SIDS มากขึ้นเช่นกัน
  • สารเคมีในควันบุหรี่มือสองมีผลต่อสมองในลักษณะที่ขัดขวางการควบคุมการหายใจของทารก
  • ทารกที่เสียชีวิตจาก SIDS จะมีความเข้มข้นของนิโคตินในปอดสูงกว่าและมีโคตินในระดับสูงกว่าทารกที่เสียชีวิตจากสาเหตุอื่น ๆ

ผู้ปกครองสามารถช่วยปกป้องทารกจาก SIDS ได้โดยดำเนินการดังต่อไปนี้:

  • ห้ามสูบบุหรี่ในระหว่างตั้งครรภ์
  • ห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน
  • เลิกบุหรี่
  • ควรให้ลูกนอนหงายอยู่เสมอ ซึ่งการนอนในท่านี้จะมีความปลอดภัยมากกว่าการนอนคว่ำหกเท่า และปลอดภัยกว่าการนอนตะแคงสองเท่า

สภาพแวดล้อมในการนอนที่ปลอดภัย

  • วางลูกน้อยของคุณบนพื้นที่แน่นหนา ใช้ที่นอนที่แข็งแรงและมีขนาดพอดี ห้ามวางเด็กลงบนผ้านวม หมอน หนังแกะ หรือเก้าอี้บีนแบค ฯลฯ
  • ห้ามวางวัตถุใด ๆ หรือใช้เครื่องนอนที่หลวมไม่กระชับพอดีในบริเวณที่ลูกน้อยของคุณนอนอยู่ อาทิ หมอน ผ้าห่มหรือผ้านวมที่มีขนนุ่มนิ่ม ที่กันกระแทกคล้ายหมอน ตุ๊กตายัดนุ่น และอื่นๆ
  • ดูให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรปิดคลุมใบหน้าของลูกน้อยของคุณระหว่างการนอน ดังนั้นเมื่อห่มผ้าห่มแก่ลูกน้อยให้สอดผ้าห่มใต้แขนของเขา ใบหน้าและศีรษะของทารกมีความสำคัญในการหายใจและระบายความร้อนของร่างกาย
  • อย่าปล่อยให้ลูกน้อยของคุณรู้สึกร้อนจนเกินไป ห้ามสวมเสื้อผ้าทับกันหลายชั้นหรือทำให้ลูกน้อยรู้สึกร้อนเกินไปโดยห่มผ้าหลายชั้น จงจำไว้ว่าจะต้องทำให้ห้องมีการระบายอากาศที่ดีและมีอุณหภูมิที่กำลังสบายสำหรับทารกที่สวมเสื้อผ้าบางเบา
  • ทารกควรนอนในห้องเดียวกับคุณ วางลูกน้อยของคุณลงในเตียงเด็กใกล้เตียงของคุณภายในห้องของคุณเอง หากเป็นไปไม่ได้ที่จะวางเตียงเด็กในห้องนอนของคุณ คุณอาจวางเด็กลงบนเปลไกวบนเตียงของคุณเพื่อแยกเขาออกมาจากคุณ เด็กน้อยควรมีผ้าห่มของเขาเองและแน่ใจว่าเครื่องนอนไม่ไปปิดทับหน้าหรือศีรษะของเขาเพื่อป้องกันการขาดอากาศหายใจ
การสร้างภูมิต้านทาน คุณควรให้ลูกน้อยของคุณได้รับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิต้านทานจนครบ จากหลักฐานล่าสุดชี้ให้เห็นว่าการสร้างภูมิต้านทานสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคไหลตาย (SIDS) ได้

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ มีแนวโน้มที่จะช่วยให้เกิดผลด้านการป้องกันโดยตรงต่อโรคไหลตาย (SIDS) 

อย่างที่ทราบกันดีแล้ว่าควันบุหรี่มือสองทำร้ายคนใกล้ชิด ไม่เว้นแม้แต่ลูกของคุณ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งตัวคุณเองและสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะสุขภาพของเจ้าตัวเล็กที่กำลังเติบโตขึ้นทุกวัน


วันนี้คุณพร้อมจะเลิกสูบบุหรี่หรือยัง!

ที่มา
https://www.cdc.gov/tobacco/data_statistics/fact_sheets/secondhand_smoke/health_effects/index.htm
https://www.fhs.gov.hk/english/other_languages/thai/child_health/new_born/14799.html


จากสุขสาระ ฉบับที่ 206 เดือนพฤษภาคม 2564
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) 

ความคิดเห็น