ควันบุหรี่มือสองกับลูกของคุณ

หากคุณเป็นผู้สูบบุหรี่ คุณควรรู้ว่า ควันบุหรี่มือสองอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบหลอดเลือดหัวใจและเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด 

ในสตรีมีครรภ์พบว่าควันบุหรี่มือสองทำให้น้ำหนักแรกเกิดของทารกต่ำ สำหรับผู้สูบบุหรี่ พึ่งสำนึกไว้ว่า คุณกำลังสูบบุหรี่รอบ ๆ ลูกของคุณ ก็เท่ากับว่า ลูก ๆ ของคุณก็สูบบุหรี่ไปกับคุณด้วยและเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพเช่นเดียวกันกับคุณ

รายงานระบุว่า ผู้ที่สัมผัสควันบุหรี่มือสองที่บ้านมีแนวโน้มที่จะเริ่มสูบบุหรี่มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 1.5 - 2 เท่า

ควันบุหรี่มือสองเกิดจากการผสมกันของควันจากการจุดบุหรี่และควันที่ผู้สูบบุหรี่พ่นออก หรือที่เรียกว่าควันบุหรี่ในสิ่งแวดล้อม (ETS) เป็นอันตรายต่อเด็กเล็กโดยเฉพาะ และอาจทำให้เกิดโรคและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่และเด็กที่ไม่สูบบุหรี่

อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า ควันบุหรี่มีสารพิษกว่า 4,000 ชนิด และอย่างน้อย 250 ชนิดเป็นอันตราย และมากกว่า 50 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง

ความเสี่ยงของบุคคลในการเป็นมะเร็งจากควันบุหรี่มือสองนั้นมากกว่าสารมลพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งภายนอกอาคารถึง 100 เท่า โดยมีผู้ไม่สูบบุหรี่มากกว่า 3,000 คน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดในแต่ละปี 

ควันบุหรี่มือสอง ก่อให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างระหว่าง 150,000 ถึง 300,000 ในทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 18 เดือน ซึ่งส่งผลให้ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระหว่าง 7,500 ถึง 15,000 รายในแต่ละปี รวมไปถึงการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของทารก (SIDS) หรือโรคไหลตายในเด็กทารก จำนวน 430 รายในสหรัฐอเมริกาทุกปีก็เป็นผลมาจากควันบุหรี่มือสอง

นอกจากนี้ ETS มักถูกระบุว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า 600,000 รายต่อปี 31 เปอร์เซ็นต์ของการเสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสองเกิดขึ้นในเด็ก [ ที่มา: LungsUSA.org]

การสัมผัสกับ ETS จะลดประสิทธิภาพของปอดและทำให้การทำงานของปอดบกพร่องในเด็กทุกวัย ซึ่งจะเพิ่มทั้งความถี่และความรุนแรงของโรคหอบหืดในวัยเด็ก ควันบุหรี่มือสองอาจทำให้ไซนัสอักเสบ โรคจมูกอักเสบ โรคซิสติกไฟโบรซิส และปัญหาระบบทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังเพิ่มจำนวนโรคหวัดและอาการเจ็บคอในวัยเด็ก

ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี การได้รับสาร ETS จะเพิ่มโอกาสเป็นโรคหลอดลมอักเสบและปอดบวม

ประมาณ 40% ของเด็กทั้งหมดได้รับควันบุหรี่มือสองที่บ้านเป็นประจำ มีแนวโน้มที่จะเริ่มสูบบุหรี่มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ 1.5 - 2 เท่า  

ดังนั้น ถ้าคุณสูบบุหรี่ หยุดเดี๋ยวนี้ เพื่อลูกของคุณและคนรอบข้าง รีบปรึกษาแพทย์เพื่อขอความช่วยเหลือ 

หากคุณมีสมาชิกในครัวเรือนที่สูบบุหรี่ จงทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้พวกเขาเลิกบุหรี่ หากไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ อย่าปล่อยให้พวกเขาสูบบุหรี่ในบ้านหรือใกล้บุตรหลานของคุณ

ข้อสำคัญ คุณต้องไม่อนุญาตให้มีการสูบบุหรี่ในบ้าน หรือในรถของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโรงเรียนและสถานรับเลี้ยงเด็กของคุณเป็นเขตปลอดบุหรี่


ที่มา: https://www.chla.org/blog/rn-remedies/secondhand-smoke-and-children

จากสุขสาระ ฉบับที่ 209 เดือนสิงหาคม 2564
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)  

ความคิดเห็น