บุหรี่กับมะเร็งเต้านม

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า การสูบบุหรี่อาจมีผลร้ายแรงต่อสุขภาพของคน ๆ หนึ่ง และเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของมะเร็งเต้านมในสตรีวัยก่อนหมดประจำเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสตรีที่เริ่มสูบบุหรี่ในช่วงวัยรุ่นหรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในการวิจัยมะเร็งเต้านม พบว่าผู้หญิงที่เคยสูบบุหรี่มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม 14% มากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยสูบบุหรี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่เริ่มสูบบุหรี่ก่อนอายุ 17 ปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมากในการเป็นมะเร็งเต้านม โดยผู้ที่เริ่มสูบบุหรี่ก่อนอายุ 17 ปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 24% ในขณะที่ผู้ที่เริ่มสูบบุหรี่ระหว่างอายุ 17 ถึง 19 ปีมีอัตราเพิ่มขึ้น 15%


นอกจากนี้ยังพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่กับมะเร็งเต้านมมีมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสตรีที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ สำหรับผู้หญิงที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม อัตราอันตรายจะเพิ่มขึ้นหากเริ่มสูบบุหรี่ทั้งหลังอายุ 20 ปี (56%) หรือก่อนอายุ 20 ปี (26%) และหากเริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกเกิน 5 ปี (53%) .

สมาคมโรคมะเร็งในสหรัฐอเมริกา ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาในปี 1994 ระบุว่าผู้หญิงที่สูบบุหรี่ตั้งแต่ 2 ซองขึ้นไปต่อวัน เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ 75 % และเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นถึง 80 % นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่สูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงเสียชีวิตถึง 25 %

การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน British Medical Journal พบว่าความเสี่ยงมะเร็งเต้านมสูงสุดคือในหมู่ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มานานกว่า 50 ปีหรือมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่ตลอดชีวิต นอกจากนี้ ผู้หญิงที่สูบบุหรี่เป็นวัยรุ่นมีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ

ในบรรดาผู้หญิงที่ไม่สูบบุหรี่ ผู้หญิงที่เคยสัมผัสกับควันบุหรี่มือสองเป็นจำนวนมาก เช่น การได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ในวัยเด็ก การได้รับควันบุหรี่จากที่บ้านมากกว่า 20 ปี หรือการได้รับควันบุหรี่มือสองมากกว่า 10 ปีเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 

นอกเหนือจากพฤติกรรมเสี่ยงในเรื่องการสูบบุหรี่แล้ว ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ ที่สาว ๆ ควรเหลีกเลี่ยงได้แก่

  • การศึกษาวิจัยจากหลายๆ ชิ้นงานพบว่า “ผู้หญิงที่มีไขมันสูง” มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งเต้านม เนื่องจากภาวะอ้วนจะส่งผลให้ร่างกายมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการลดปริมาณแคลอรี่จากไขมันให้น้อยกว่า 20-30% ต่อวัน อาจช่วยปกป้องสาวๆ จากโรคมะเร็งเต้านมได้
  • ไม่ชอบออกกำลังกาย อีกหนึ่งพฤติกรรมที่ควรปรับเปลี่ยน นอกจากการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และทานแต่อาหารไขมันสูงแล้ว การไม่ชอบออกกำลังกาย..ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มสูงขึ้น โดยมีผลการศึกษาพบว่า..การออกกำลังกาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมมากถึง 10-50%

หยุดพฤติกรรมเสี่ยง หยุดเสี่ยงมะเร็งเต้านม


ข้อมูล
https://www.ajmc.com/view/study-links-smoking-to-increased-risk-of-breast-cancer
https://www.healthchoicebysamitivej.com/รายละเอียด/ภัยร้ายของบุหรี่ที่มีต่อผู้หญิง
https://www.paolohospital.com/th-th/center/Article/Details/มีบุตรยาก/-มะเร็งเต้านม--โรคฮิตที่ป้องกันได้---แค่ปรับพฤติกรรมเหล่านี้--
https://www.upi.com/Health_News/2011/03/02/Active-passive-smoking-up-cancer-risk/82801299106430/

จากสุขสาระ ฉบับที่ 212 เดือนพฤศจิกายน 2564
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) 

ความคิดเห็น