“ความมีน้ำใจ” หมายถึงความรู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ความมีน้ำใจจึงตรงข้ามกับความเห็นแก่ตัว ความมีน้ำใจจึงทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น และน่าอยู่ขึ้น
เมื่อเรารู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น มันจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น และมันส่งผลต่อร่างกายของเรา การแสดงความมีน้ำใจต่อผู้อื่น สามารถเพิ่มความพึงพอใจในชีวิต ลดความเจ็บปวด และส่งผลดีต่อร่างกายของเราการศึกษาพบว่าหากเราแสดงความมีน้ำใจอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวัน ไม่เพียงแต่จะลดความเครียด ความวิตกกังวล และความหดหู่ใจลงเท่านั้น แต่ร่างกายของเราจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขที่จะช่วยให้เราสงบและสุขภาพดีขึ้น มีความสุขมากขึ้นออกมา ได้แก่ ฮอร์โมน เซโรโทนิน (Serotonin) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งภายในร่างกายที่มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการทำงานของสมองและระบบประสาท ส่งผลต่อกระบวนการคิด พฤติกรรม และอารมณ์ หากเรามี เซโรโทนิน ในระดับที่เหมาะสมจะช่วยให้สุขภาพจิตดี อารมณ์ดี มีสมาธิ ช่วยให้คิดและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนฮอร์โมน เอ็นโดรฟิน (Endorphins) เป็นสารที่ร่างกายหลั่งออกมาหลังออกกำลังกายและทำกิจกรรมบางอย่าง ซึ่งช่วยให้รู้สึกดีหรือสบายตัวได้ เอ็นโดรฟินเป็นสารแห่งความสุข มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ทั้งบรรเทาความเจ็บปวด ช่วยให้คนท้องคลอดลูกง่ายขึ้น บรรเทาอาการซึมเศร้า คลายเครียด เพิ่มความเชื่อมั่นในตนเอง และยังช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย
เมื่อคุณมีน้ำใจ ไม่เพียงแต่ตัวคุณ หรือผู้ที่รับน้ำใจจากคุณจะได้รับประโยชน์ หากแม้มีผู้ที่เห็นว่าคุณได้แสดงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ร่างกายของพวกเขาจะเต็มไปด้วยฮอร์โมนแห่งความรู้สึกที่ดีเช่นเดียวกัน และพร้อมที่จะแสดงความมีน้ำใจต่อผู้อื่นเช่นกัน
https://www.pobpad.com/เอ็นโดรฟิน-สารแห่งความส
https://www.pobpad.com/serotonin-เซโรโทนิน-สารเคมีแห่ง
https://www.nextlevelurgentcare.com/blog/the-benefits-of-random-acts-of-kindness/?gclid=EAIaIQobChMIo5f74Jf5-wIVEZJmAh0Ipw0GEAMYASAAEgLFmPD_BwE
เดือนกุมภาพันธ์ 2566
www.muslim4health.or.th
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น