ซีเซียม 137 เป็นสารกัมมันตรังสี ที่มีลักษณะโลหะอ่อนมาก สีทองเงิน เป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง แต่มักจะจับตัวกับคลอไรด์กลายเป็นผงผลึก ปล่อยรังสีเบต้า และแกมม่า ใช้ในโรงงาน นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเครื่องมือทางการแพทย์รักษามะเร็ง
ประโยชน์ มีการนำซีเซียม 137 มาใช้ไม่มากนัก ส่วนใหญ่ใช้เป็นต้นกำเนิดรังสีในการรักษามะเร็ง และใช้ในเครื่องมือวัดทางอุตสาหกรรม ถ้ามีปริมาณน้อยจะใช้สำหรับปรับเทียบเครื่องมือวัดรังสีหรือใช้เป็นต้นกำเนิดรังสีแกมมาที่นำมาใช้ในการวัดความหนาแน่นของเครื่องมือเจาะสำรวจน้ำมัน
อันตราย ในระยะสั้นหากได้รับหรือสัมผัสจะไม่ส่งผลอันตรายให้เห็นผลชัดเจน แต่จะก่อความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ ถ้าได้รับเข้าไปในร่างกายผ่านทางผิวหนังที่มีบาดแผล ผ่านการหายใจ และรับประทานเข้าไป ซีเซียมจะเข้าไปสะสมอยู่ในเนื้อเยื่ออ่อนของอวัยวะต่าง ๆ และจะแผ่รังสีให้อวัยวะเหล่านั้นส่งผลให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งในเวลาต่อมา
เมื่อสัมผัสสารกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 อาการที่พบคือ มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ถ่ายเหลว ผิวหนังบริเวณที่โดนรังสีจะเกิดแผลไหม้พุพอง
ในกรณีสัมผัสปริมาณมาก ส่งผลกระทบต่อระบบเลือด กดไขกระดูก ระบบประสาท ชักเกร็ง และอาจเสียชีวิตได้
การควบคุมดูแลซีเซียม 137 ที่ใช้เป็นต้นกำเนิดรังสีแกมมาที่ไม่รัดกุมพอ อาจจะทำให้เกิดการรั่วไหลของไอโซโทปรังสีและเกิดการเจ็บป่วยจากรังสีได้ ดังตัวอย่างต่อไป
ย้อนไปเมื่อวันที่ 10-13 ก.ย. 2530 คนเก็บขยะ 2 คนได้ลอบเข้าไปในคลินิกรักษาโรคมะเร็งแห่งหนึ่งในเมืองโกยาเนีย ห่างจากกรุงบราซิเลียของบราซิล ราว 200 กิโลเมตร
คลินิกแห่งนี้ได้ย้ายออกจากเมืองโกยาเนีย ในปี 2528 แต่ไม่ได้ดำเนินการกับเครื่องมือแพทย์หลายชิ้น รวมถึงเครื่องบำบัดด้วยรังสี อย่างถูกต้อง ทำให้หลายชิ้นยังคงอยู่ภายในคลินิกที่รกร้าง
คนเก็บขยะเข้าไปในคลินิกร้างแห่งนี้ พวกเขาพบอุปกรณ์รักษาด้วยรังสี สำหรับบำบัดผู้ป่วยโรคมะเร็ง พวกเขาขโมยอุปกรณ์บำบัดด้วยรังสี ไปขายที่ร้านขายของเก่า โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าแท้จริงนั้นคืออะไร ต่อเมื่อกลับไปบ้าน พวกเขาเริ่มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ นั่นคือจุดเริ่มต้นของวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในโลก ที่เกิดขึ้นนอกโรงงานนิวเคลียร์
สรุปแล้ว มีผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมมันตรังสี 4 คน มีผู้ป่วยได้รับกัมมันตรังสีต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 249 คน และผู้คนกว่า 100,000 คน ต้องเฝ้าระวัง โดยผู้คนในเวลานั้น รวมถึงสื่อ รายงานว่า นี่อาจเป็นวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุด นับแต่เหตุการณ์เชอร์โนบิลในยูเครนก็เป็นได้
ในปี 2532 พบแคปซูลขนาดเล็ก 8 x 4 มม. ของซีเซียม 137 ภายในผนังคอนกรีตของอาคารอพาร์ตเมนต์ในเมือง Kramatorsk , SSR ของยูเครน เมื่อถึงเวลาที่แคปซูลถูกค้นพบ ผู้พักอาศัยในอาคาร 6 คนเสียชีวิต 4 คนจากมะเร็งเม็ดเลือดขาวและอีก 17 คนได้รับปริมาณรังสีที่แตกต่างกัน
ในปี 2552 บริษัทซีเมนต์ของจีน (ในตงฉวนมณฑลส่านซี ) ขณะกำลังรื้อถอนโรงงานซีเมนต์ เก่าที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการจัดการวัสดุกัมมันตภาพรังสี ทำให้ซีเซียม 137 บางส่วนจากเครื่องมือวัดถูกรวมเข้ากับเศษโลหะ จำนวน 8 คันรถบรรทุก ที่กำลังเดินทางไปยังโรงถลุงเหล็กซึ่งสารกัมมันตภาพรังสีซีเซียมถูกหลอมละลายลงในเนื้อเหล็ก
ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2558 มหาวิทยาลัย Tromsø ของ นอร์เวย์ได้สูญเสียตัวอย่าง กัมมันตภาพรังสี 8 ตัวอย่าง รวมทั้งตัวอย่างซีเซียม 137 อะเมริเซียม 241และสตรอนเทียม 90 กลุ่มตัวอย่างถูกย้ายออกจากสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อใช้ในการศึกษา เมื่อตัวอย่างถูกส่งกลับยังมหาวิทยาลัยก็หาไม่พบ ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2558 ตัวอย่างยังคงหายไป
เมื่อวันที่ 3 และ 4 มีนาคม พ.ศ.2559 ตรวจพบระดับซีเซียม 137 สูงผิดปกติในอากาศที่เมืองเฮลซิงกิประเทศฟินแลนด์ จากข้อมูลของ STUK ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมนิวเคลียร์ของประเทศ การวัดพบว่า 4,000 μBq/m3 –ประมาณ 1,000 เท่าของระดับปกติ การสืบสวนโดยหน่วยงานได้ติดตามแหล่งที่มาไปยังอาคารที่ STUK และบริษัทบำบัดกากกัมมันตรังสีดำเนินการอยู่
ผู้ประสบภัย 13 คนได้รับสารซีเซียม 137 ในเดือนพฤษภาคม 2562 ที่อาคารวิจัยและฝึกอบรมในศูนย์การแพทย์ฮาร์เบอร์วิว ทีมงานรับจ้างกำลังขนย้ายซีเซียมจากห้องปฏิบัติการไปยังรถบรรทุกเมื่อผงแป้งหก ผู้ประสับภัย 5 คนได้รับการฆ่าเชื้อและปล่อยตัว แต่อีก 8 คนที่ได้รับสัมผัสโดยตรงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในขณะที่อาคารวิจัยถูกอพยพ
มกราคม พ.ศ.2566 รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย หน่วยงานสาธารณสุขในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียออกประกาศภาวฉุกเฉินบริเวณถนนยาวประมาณ 1,400 กม. หลังจากแคปซูลขนาด 8 มม.ที่มีซีเซียม 137 สูญหายระหว่างการขนส่งเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2566 รัฐบาลแห่งรัฐเริ่มดำเนินการค้นหาทันที โดย นายแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของ WA Department of Health เตือนว่าผู้ที่สัมผัสสารอาจคาดหวังว่าจะได้รับรังสีเอกซ์ ประมาณ 10 ครั้ง ต่อชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญเตือน หากพบแคปซูล ประชาชนควรอยู่ห่างอย่างน้อย 5 เมตร พบแคปซูลเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566
มีนาคม 2566 ปราจีนบุรี ประเทศไทย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี พยายามกู้แคปซูลซีเซียม 137 ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำในจังหวัดปราจีนบุรี สูญหายไปตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 แต่ยังไม่ได้รับแจ้งต่อสาธารณชนไทยจนถึงวันที่ 14 มีนาคม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น