ข้อมูลของปี พ.ศ. 2562 แพทยสมาคมแห่งสหรัฐอเมริกาได้เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากไม่ปลอดภัย มีผลกระทบต่อการเกิดโรคปอดซึ่งเป็นวิกฤตทางด้านสาธารณสุขของประเทศ โดยในตอนนั้นมีรายานเรื่องผู้ป่วยปอดอักเสบที่มีโอกาสสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 450 ราย ในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 และพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจำนวนมาก และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 7 รายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน จากนั้นศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ (CDC, Center of disease control and Prevention) ได้มีการประกาศและเฝ้าระวังโรค มีรายงานโรคจากทั่วประเทศ 50 รัฐ รวมถึงเขตโคลัมเบีย และเขตปกครองของสหรัฐอเมริกา 2 แห่งคือเปอร์โตริโกและหมู่เกาะเวอร์จิน ยอดผู้ป่วยจนถึงวันที่ 18 ก.พ. 2564 พบผู้ป่วย EVALI ที่ต้องนอนโรงพยาบาลทั้งสิ้น 2,807 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 68 ราย
สำหรับประเทศไทย เริ่มมีการพบผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรง EVALI เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อายุน้อยยังอยู่ในวัยรุ่น และส่วนใหญ่มีความเข้าใจผิดอย่างมากๆ ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดา ไอละอองจากบุหรี่ไฟฟ้า เป็นเพียงละอองน้ำ ไอน้ำมีเพียงสารปรุงแต่งให้มีกลิ่นหอม และบางยี่ห้อยังอ้างว่าไม่มีนิโคติน ในความเป็นจริง ควันไอละอองจากบุหรี่ไฟฟ้ามีฝุ่นขนาดเล็ก PM 1.0 และ PM 2.5 มีสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น ฟอร์มาร์ลดีไฮด์ ไดอะซิทิล และอโครลิน รวมทั้งโลหะหนักที่เป็นพิษ เช่น นิกเกิล ดีบุก และตะกั่ว ซึ่งที่มาของโลหะหนักอาจจะมาจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์สูบที่โลหะหนักหลุดลอยจากขดลวดที่ชุบน้ำยา ขณะที่สารปรุงแต่งกลิ่นรสที่มีนับพันชนิดที่ถูกความร้อนจนเกิดเป็นไอระเหย มีผลกระทบต่อสุขภาพคือทำให้มีภาวะปอดอักเสบเฉียบพลัน และโรคอื่นได
จากรายงานที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร New England Journal of Medicine ปี พ.ศ 2565 พบว่ามี vitamin E acetate ในน้ำล้างปอดของผู้ป่วย EVALI ถึง 94% ซึ่ง vitamin E acetate ถูกใส่อยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าหลายๆ ยี่ห้อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นไปได้ว่าการสูดสาร vitamin E acetate ที่โดนความร้อนจนระเหย ทำให้เกิดการบาดเจ็บของปอดและทำให้การทำงานของปอดผิดปกติไป ซึ่งศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในยอดผู้ป่วยที่รายงาน 2,807 รายจนถึง ก.พ. 2564 นั้น มีอายุเฉลี่ยเพียง 24 ปี (13-85 ปี) ผู้ป่วยที่ปอดอักเสบเฉียบพลันจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2,022 ราย 14% สูบบุหรี่ไฟฟ้าเฉพาะที่มีสารนิโคติน 33% สูบบุหรี่ไฟฟ้าเฉพาะที่มีสารกัญชา 53% สูบบุหรี่ไฟฟ้าหลายประเภท ดังนั้น จึงอาจไม่ใช่วิตามินอะซีเตตในสารกัญชาเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เกิดปอดอักเสบรุนแรง ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้านั้นสูบเพียงไม่นานก็พบอาการของปอดจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
นอกจากโรคปอดอักเสบรุนแรงเฉียบพลันแล้ว บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคเส้นเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหดตัว เหนื่อยง่าย ในคนที่อายุน้อย
กว่าที่โลกจะรู้ว่า บุหรี่ (ธรรมดา) เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ต้องใช้เวลากว่า 80 ปี แต่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่งใช้กันมากเมื่อประมาณ 10 ปี ระยะนี้จึงอยู่ใน “ระยะฟักตัวของโรคต่างๆ” ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น