“ท้องผูก” เป็นปัญหากวนใจของหลายคน เป็นปัญหาที่ไม่เข้าใครออกใคร อาการท้องผูกทำร้ายสุขภาพสารพัด ทั้งทำให้รู้สึกอึดอัด หงุดหงิดง่าย อ่อนแรง ผิวหน้าหมองคล้ำ เสี่ยงริดสีดวงทวาร สำหรับสาว ๆ บางคน ถ้าปล่อยให้ท้องผูก พุงก็จะป่อง หมดสวย
หาก “ท้องผูก” มาเยือนแทนที่จะหายาถ่ายมาทาน เรามาใช้วิธีธรรมชาติ โดยการทานผลไม้เหล่านี้ เพื่อช่วยแก้ท้องผูกกันดีกว่า
- มะละกอ- มะละกอมีไฟเบอร์สูง และมีน้ำย่อยธรรมชาติที่สามารถกำจัดคราบโปรตีนเก่า ๆ ที่ร่างกายย่อยไม่หมดออกไป ช่วยกำจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการขับถ่ายของลำไส้ มะละกอมีสารเพกตินที่เป็นสารช่วยเคลือบกระเพาะและลำไส้ ช่วยลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร พร้อมกับสรรพคุณที่ช่วยให้กากอาหารมีมากขึ้นจนไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวถ่ายออกมา เมื่อถ่ายง่าย ถ่ายคล่อง ก็จะช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ด้วยล่ะ ยังพบว่า มะละกอมีสรรพคุณอีกหลากหลาย เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเบต้าแคโรทีนมีคุณสมบัติช่วยต้านมะเร็ง เอนไซม์ปาเปนในมะละกอที่มีสรรพคุณในการย่อยเนื้อ มีส่วนช่วยย่อยอาหารในกระเพาะอาหารได้ สารอาหารในมะละกอมีส่วนช่วยบำรุงเลือด และช่วยขับน้ำนมให้คุณแม่หลังคลอด วิตามินซีในมะละกอมีส่วนสำคัญในการป้องกันเลือดออกตามไรฟัน เป็นต้น
- กล้วยน้ำว้าสุก เพกตินในผลกล้วยน้ำว้าสุกช่วยแก้ท้องผูก ซึ่งนอกจากเพกตินที่ว่าแล้ว กล้วยน้ำว้ายังเปี่ยมไปด้วยไฟเบอร์ และยังมีทีเด็ดที่เมือกลื่น ช่วยให้การขับถ่ายคล่องตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 และวิตามินซี ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน โดยกล้วยน้ำว้าสุก 1 ผลกลาง ให้พลังงานราว ๆ 60 กิโลแคลอรี กล้วยน้ำว้า มีสารฟลาโวนอยด์ ที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ต้านการอักเสบ และลดอาการปวดข้อเข่า เป็นต้น ซึ่งสารฟลาโวนอยด์ในกลุ่มผลไม้ที่มีเนื้อสีขาวอย่างกล้วย ก็มีอยู่หลายชนิดเลยด้วย กล้วยน้ำว้าช่วยบรรเทาอาการริดสีดวง สารแทนนินในกล้วยน้ำว้าดิบมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วง เป็นต้น
- มะขาม 1 ฝักเล็ก ๆ ให้พลังงานเพียงแค่ 5-10 กิโลแคลอรีเท่านั้น แต่สำหรับคนที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายไม่ออกนานเป็นสัปดาห์ แนะนำให้แก้ท้องผูกด้วยมะขามเปียก 1 ก้อน แช่ในน้ำอุ่นประมาณ 3 แก้ว แล้วใช้ช้อนบี้เพื่อให้ได้น้ำมะขามเปียกข้น ๆ แล้วก็ดื่มน้ำมะขามเปียกนั้นให้หมดแก้วก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง รับรองพรุ่งนี้เช้าได้ดีลกับชักโครกจนท้องโล่งแน่ ๆ
- ลูกพรุน ผลไม้ชนิดนี้ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกหรือขับถ่ายลำบากได้ดี เพราะลูกพรุน 1 ลูก มีปริมาณไฟเบอร์สูงถึง 1.4 กรัมเลยทีเดียว ยิ่งหากกินลูกพรุนแล้วดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตรไปด้วย ระบบขับถ่ายจะยิ่งคล่องตัวเป็นทวีคูณ นอกจากนี้ลูกพรุนยังมีไขมันต่ำและแคลอรีน้อย คือ 1 ผล ให้พลังงานราว ๆ 20-25 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง กินเป็นประจำก็ช่วยลดน้ำหนักได้ นอกจากนี้ ลูกพรุนยังมีสารซอร์บิทอล (Sorbitol) ที่ทำงานคล้ายกับยาระบาย จึงอาจช่วยให้ร่างกายขับอุจจาระได้บ่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรรับประทานลูกพรุนในปริมาณที่พอดีควบคู่ไปกับการดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบ (Ulcerative Colitis) หรือมีปัญหาสุขภาพอยู่ นอกจากนี้ การรับประทานลูกพรุนในปริมาณมากยังอาจส่งผลให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องอืด ท้องเสีย และบางคนที่ดื่มน้ำน้อยอาจเกิดอาการท้องผูกได้ง่ายด้วย
- ส้ม ใครที่ดื่มน้ำน้อย ลองแก้ปัญหานี้ด้วยการกินส้มเขียวหวาน เพราะส้มไม่ได้มีไฟเบอร์เยอะเท่านั้น แต่ปริมาณน้ำในส้มก็เยอะพอตัว จึงช่วยแก้ท้องผูกให้คนที่ถ่ายยากเพราะในลำไส้มีน้ำน้อยได้เป็นอย่างดี โดยส้ม 1 ผลกลาง ให้พลังงานประมาณ 50-60 กิโลแคลอรี แต่ทั้งนี้ก็ควรดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เยอะขึ้นเพื่อช่วยให้ถ่ายคล่องยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยนะ
ยังมีผลไม้ที่ช่วยในการขับถ่ายอีกหลากหลายชนิดที่เรารู้จักกันดี เช่น แอปเปิ้ลเขียว แก้วมังกร สับปะรด มะม่วงสุก กีวี่ แตงโม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้เส้นใยอาหารจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่หากกินมากเกินกว่าวันละ 25-30 กรัม ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน เช่น ท้องอืด และมีปัญหาในระบบย่อยอาหารได้ ฉะนั้นควรบริโภคแต่พอดี และหมั่นออกกำลังกายเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง
ข้อมูล
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/9/iid/145362
https://health.kapook.com/view169176.html
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/35/iid/132440
https://www.pobpad.com/ประโยชน์ของลูกพรุน-ผลไม
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/9/iid/145362
https://health.kapook.com/view169176.html
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/35/iid/132440
https://www.pobpad.com/ประโยชน์ของลูกพรุน-ผลไม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น