แคดเมียม

แคดเมียม เป็นโลหะหนัก (heavy metal) ชนิดหนึ่ง มีสีขาว ฟ้า วาว ซึ่งสามารถปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อมและตกค้างในอาหาร เป็นอันตรายในอาหาร (food hazard) ประเภทอันตรายทางเคมี (chemical hazard) 

แคดเมียม ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมหลากหลายด้าน มักปนอยู่ในสินแร่สังกะสี ตะกั่ว หรือทองแดง ฉะนั้นในการทำเหมืองสังกะสี จะได้แคดเมียมซึ่งเป็นผลพลอยได้ นอกจากนี้ยังพบกากแร่แคดเมียมในสีที่ผสมใช้กับบ้านหรืออาคาร แคดเมียมปะปนอยู่กับแร่อื่น ๆ และ ปัจจุบัน แคดเมียมมีการปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อมและอาหาร ทำให้เราได้รับเข้าสู่ร่างกาย สะสมอยู่ที่ปอด ตับและไต จนทำให้เกิดพิษโดยไม่รู้ตัว

แคดเมียมเข้าสู่ร่างกายของเราได้อย่างไร

  • การหายใจ เช่น การสูดดมฝุ่นละอองที่ปนเปื้อนแคดเมียม
  • การรับประทาน เช่น การปนเปื้อนสารแคดเมียมในอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนสารแคดเมียม เช่น ข้าวที่ปลูกบนดินที่มีการปนเปื้อนของแคดเมียมอยู่ สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่มีการปนเปื้อน เนื้อหรือนมจากวัวที่กินหญ้าที่เกิดจากดินที่มีการปนเปื้อน 
  • การสัมผัสทางผิวหนัง

ผลกระทบต่อสุขภาพจากแคดเมียม

  • พิษเฉียบพลัน (Acute toxicity) 

มักพบในกรณีการหายใจเอาไอระเหยของแคดเมียมเข้าไป อาจมีอาการ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ถ้ารุนแรงมากทำให้เกิดภาวะหายใจลำบาก (Respiratory distress) หรือ ภาวะหายใจล้มเหลว (Respiratory failure)  และอาจเสียชีวิตได้

  • พิษเรื้อรัง (Chronic toxicity) 

การได้รับสารแคดเมียมสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อความเป็นพิษต่อไต ทำให้ไตสูญเสียการทำงาน และอาจทำให้เกิดไตวายเรื้อรังได้ในที่สุด ซึ่งการเกิดความผิดปกติของไตนี้จะเป็นแบบถาวร แม้ไม่ได้รับแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายแล้วไตก็ไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้ ความเป็นพิษต่อกระดูก  คือ แคดเมียมจะเข้าไปสะสมอยู่ในกระดูก เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนและอาจมีอาการปวดกระดูกอย่างมากโดยเฉพาะที่กระดูกสะโพก ซึ่งเป็นอาการของโรคอิไต – อิไต โดยคนกลุ่มนี้จะมีอาการกระดูกเปราะ แตกหักง่าย ความเป็นพิษต่อปอด ความเป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ ความเป็นพิษต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ และการเป็นสารก่อมะเร็ง อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งที่ปอดและกระดูก

พิษของแคดเมียมยังเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ เช่น มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ แคดเมียมยังมีส่วนที่ทำให้อาการของโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เพิ่มขึ้นอีกด้วย

วิธีป้องกันตัวเองและปฐมพยาบาล

  1. หากสูดดม: ให้รีบออกจากพื้นที่ รับอากาศบริสุทธิ์นำส่งแพทย์ทันที
  2. หากสัมผัสกับผิวหนัง: ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกหมดทันที ล้างด้วยน้ำไหลผ่าน รีบพบแพทย์
  3. หากเข้าตา: ล้างออกด้วยน้ำปริมาณมาก รีบพบจักษุแพทย์
  4. หากกลืนกิน/ดื่ม ให้รีบดื่มน้ำตามทันทีอย่างน้อย 2 แก้ว รีบพบแพทย์
  5. งดเข้าพื้นที่เกิดเหตุ ติดตามสถานการณ์ สังเกตอาการตนเอง ผิดปกติรีบพบแพทย์ทันที

แคดเมียม ป้องกันได้อย่างไร

กลุ่มคนงานที่ต้องสัมผัสกับแคดเมียม สามารถป้องกันได้โดย

  • ใส่หน้ากาก เช่น หน้ากาก N95 ป้องกันไอระเหยจากสารเคมีโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการหายใจเอาไอของแคดเมียมเข้าสู่ร่างกาย
  • ใส่ถุงมือตลอดเวลาในขณะปฎิบัติงาน
  • ล้างมือและทำความสะอาดร่างกายหลังการทำงานทุกครั้ง
  • ประชาชนทั่วไปให้เฝ้าระวังและสังเกตอาการหากเกิดพิษที่เป็นผลจากแคดเมียม

วิธีเก็บรักษาแคดเมียม: 

ควรเก็บแคดเมียมในรูปแบบของสถานะของแข็งและอยู่ในบรรจุภัณฑ์อย่างมิดชิด จะสามารถลดความเสี่ยงการรับสัมผัสสารดังกล่าวได้

ข้อมูล
https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/2121/cadmium-แคดเมียม
https://www.hfocus.org/content/2024/04/30203
https://www.sikarin.com/health/cadmium

สุขสาระออนไลน์ ฉบับที่ 231
เดือนพฤษภาคม 2567
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)
www.muslim4health.or.th

ความคิดเห็น