เมื่อพ่อป่วย

เรืองยุทธ

โรคบางโรครักษาเท่าไรก็ไม่หาย ถึงคราวจะหายก็หายอย่างไม่คาดคิด

พ่อของผมเป็นโรคหอบ โรคภูมิแพ้แต่สมัยยังหนุ่ม อายุมากขึ้นอาการก็รุนแรงขึ้น ยิ่งในตอนนั้น พ่อผมสูบบุหรี่ อาการไอและหอบเหนื่อยก็ยิ่งหนักหนาสาหัสขึ้น ผมยังจำภาพของพ่อที่เมื่อมีอาการของโรคกำเริบ พ่อจะไอและหอบจนตัวโยน บางครั้งต้องเข้าห้องฉุกเฉิน ให้น้ำเกลือ ให้ออกซิเจน

พ่อมียาที่กินอยู่ตัวหนึ่ง (ขอไม่บอกว่ายาอะไร จะได้ไม่ถูกฟ้อง) ใช้ช่วยขยายหลอดลม แต่บางครั้งก็มีผลข้างเคียง หอบหนักมากขึ้น ยังติดตาผมจนถึงทุกวันนี้

พ่อผมเสียชีวิตเพราะยานี้ ที่ทำให้เส้นเลือดเปราะ และแตก จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด

ผมกับน้องสาวคนโตซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ดูเหมือนจะเป็นลูกสองคนที่รับมรดกโรคหอบ โรคภูมิแพ้มาจากพ่อ ในขณะที่พี่ชายกับน้องสาวคนเล็กไม่ได้รับมรดกนี้

ผมเริ่มมีอาการไอหนักจนบางครั้งเหมือนโลกจะแตกตอนอายุสี่สิบต้นๆ หมอให้ยาแก้ไอ ขยายหลอดลม ไว้ใช้เมื่อจำเป็นต้องใช้

เป็นๆ หายๆ อยู่หลายปี จนกระทั่งเมื่อไม่ถึงสิบปีที่ผ่านมา ผมไอและหอบหนักมาก จนหมอเข้าใจว่าเป็นหวัด ปอดอักเสบ หรือหลอดลมอักเสบ

ก็รักษากันไปตามอาการ แต่ก็ไม่หาย

ที่สุด หมอคนหนึ่งที่โรงพยาบาลจุฬาฯ (ต้องให้เครดิต) พูดออกมาระหว่างที่ตรวจรักษาผมว่า "ขอลองอีกสมมุติฐานนะครับ อาจเป็นกรดไหลย้อนก็ได้"

หลังจากนั้นก็ซักพฤติกรรมการกินอาหารเย็น การพักผ่อน การนอนของผม แล้วก็ให้ยาลดกรดผมไว้กินก่อนอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง และเน้นว่า

ต่อไปนี้ หลังอาหาร ครึ่งชั่วโมงแรกห้ามนั่ง สามชั่วโมงแรกห้ามนอน เวลานอนพยายามให้ได้เจ็ดหรือแปดชั่วโมง

ผมทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด

หลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ อาการไอ หอบหายไปหมด ผมกินยาที่หมอให้จนหมดแล้วแทบจะไม่ต้องกินอีกเลย

ผมนึกออกว่าตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ พ่อผมกินข้าวแล้วก็นั่งคุยกัน โดยนั่งกับพื้น บางครั้งก็นอนเอกเขนก ดูโทรทัศน์

มรดกที่ผมได้มาจากพ่อ จึงเป็นกรดไหลย้อน ไม่ใช่หอบกับภูมิแพ้

คนที่ป่วยแบบเดียวกับผมลองใช้คำแนะนำของหมอ ตามที่ผมบอกไว้นะครับ

หลังอาหาร ครึ่งชั่วโมงห้ามนั่ง สามชั่วโมงห้ามนอน นอนให้ได้เจ็ดหรือแปดชั่วโมงต่อคืน




สุขสาระออนไลน์ ฉบับที่ 234
เดือนสิงหาคม 2567
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)
www.muslim4health.or.th

ความคิดเห็น