กิน พาราเซตามอล ให้ถูกวิธี

พาราเซตามอล เป็นยาแก้ปวดลดไข้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะหาซื้อได้ง่าย และมักจะมีติดไว้เป็นยาสามัญประจำบ้าน เป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกวิธี

ถึงแม้ว่ายาพาราฯ จะปลอดภัย แต่การใช้ยาที่ไม่ถูกต้องหรือกินยามากจนเกินความจำเป็นก็จะส่งผลเสียต่อการทำงานของตับ อาจนำไปสู่ภาวะการเกิดตับอักเสบเฉียบพลัน และเกิดภาวะตับวาย ถึงขั้นเสียชีวิตได้

ข้อห้าม/ข้อควรระวังในการใช้ยาพาราเซตามอล

  • ควรใช้ยาพาราเซตามอลตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ โดยควรกินยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม 1-2 เม็ด/ครั้ง ทิ้งระยะห่างครั้งละ 4-6 ชั่วโมง และไม่ควรกินยามากกว่า 8 เม็ด/วัน (4,000 มิลลิกรัม)
  • ห้ามกินยาร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งเพิ่มผลเสียให้กับตับ
  • ผู้ป่วยที่มีสภาวะการทำงานของตับผิดปกติ หรือมีโรคตับควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกรก่อนการใช้ยาเพื่อปรับขนาดตัวยาที่ใช้อย่างเหมาะสม
  • ห้ามใช้ยาพาราเซตามอลกับผู้ที่เคยมีประวัติแพ้ยาตัวนี้ โดยอาการแพ้ยาพาราเซตามอลที่สังเกตได้ คือ มีผื่นขึ้นตามตัว มีอาการบวมที่หน้าและริมฝีปาก แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หรือหากมีอาการเหล่านี้หลังกินยาพาราเซตามอลควรเข้าพบแพทย์ทันที
  • ตรวจสอบวันหมดอายุของยาก่อนใช้งาน และห้ามใช้ยาหมดอายุ

วิธีเก็บรักษา ยาพาราเซตามอล

  • ควรเก็บยาพาราเซตามอลในภาชนะบรรจุภัณฑ์เดิมที่บรรจุมาด้วยการปิดให้สนิท หรือหากเป็นตัวยาแบบแผงควรระมัดระวังไม่ให้เกิดรอยฉีกขาด
  • เก็บยาให้พ้นแสงแดดและความร้อน หลีกเลี่ยงการเก็บยาไว้ในที่ที่อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส
  • เก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยงในบ้าน
  • หลีกเลี่ยงการเก็บยาไว้ในที่เปียกหรือชื้น เช่น ในห้องน้ำ อ่างล้างมือ อ่างล้างหน้า เนื่องจากความชื้นอาจเป็นสาเหตุให้ตัวยาเสื่อมคุณภาพได้

นอกจากนี้ยังต้องระวังการใช้ยาซ้ำซ้อนเมื่อใช้ยาร่วมกับยาสูตรผสมที่มีพาราเซตามอลเป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ยาสูตรผสมบรรเทาอาการของโรคหวัด ยาคลายกล้ามเนื้อ เพราะอาจได้รับพาราเซตามอลเกินขนาด 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งการได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาดจะส่งพิษต่อตับ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องบริเวณด้านขวาบน มีตับโต กดเจ็บ ถ้าตรวจเลือดอาจพบค่าที่บ่งว่าการทำงานของตับผิดปกติ ถ้าตับถูกทำลายมากขึ้น อาจพบอาการของตับวายเฉียบพลัน ได้แก่ ตัวเหลือง ตาเหลือง สับสน ซึม ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเสียชีวิตได้ 

ดังนั้นก่อนรับประทานยาทุกชนิดควรอ่านฉลากให้ละเอียด หรือถ้าไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง


ข้อมูล
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/พาราเซตามอล-กินมากไปเสี/
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1300
https://www.phukethospital.com/th/healthy-articles/paracetamol/
https://www.chula.ac.th/clipping/80174/


สุขสาระออนไลน์ ฉบับที่ 235
เดือนกันยายน 2567
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)
www.muslim4health.or.th

ความคิดเห็น