เล่ากันว่า ไอศกรีมเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 ในยุคสมัยของจักรพรรดิเนโร แห่งอาณาจักรโรมัน ที่พระองค์ได้พระราชทานเลี้ยงไอศกรีมแก่เหล่าทหารในกองทัพ โดยในสมัยนั้นไอศกรีมคือ หิมะ ที่ถูกทำนำมาผสมกับน้ำผึ้งและผลไม้ เพื่อเพิ่มรสหวานเท่านั้น ซึ่งเป็นที่มาของไอศกรีมเชอร์เบทในปัจจุบัน
ส่วนอีกตำนานหนึ่งเล่าว่า เมื่อสี่พันปีที่แล้วไอศกรีมถูกค้นพบโดยบรรพบุรุษของชาวจีน จากการที่นิยมนำนมที่เหลือกิน ไปเก็บไว้ในหิมะ เพื่อให้เก็บน้ำนมเหล่านั้นไว้ให้นาน ๆ จนน้ำนมกลายเป็นน้ำแข็งและเป็นต้นแบบไอศกรีมของโลก
บ้างก็ว่ามาจากอิตาลีโดยมาร์โค โปโล กลับจากจีนแล้วเอาสูตรไอศกรีมมาเผยแพร่ ซึ่งในตอนนั้นไอศกรีมของจีนยังไม่มีนม เป็นคล้ายน้ำแข็งไสมากกว่า ยังมีจุดเริ่มต้นจากอังกฤษเมื่อสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 พ่อครัวคนหนึ่งมีสูตรเด็ดเป็นครีมแช่แข็งปรุงรส ซึ่งเป็นสูตรลับสุดยอดที่ส่งเป็นของหวานถวายพระองค์ ทว่าเมื่อพระองค์ถูกปลงพระชนม์ ในสงครามกลางเมืองอังกฤษระหว่างปี ค.ศ. 1642-ค.ศ. 1651 พ่อครัวจึงต้องลี้ภัยไปยุโรปและได้นำสูตรไอศกรีมนี้เผยแพร่ออกไป
ประเทศไทยนั้น ไอศกรีมเริ่มเข้ามาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมตะวันตกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำมาเผยแพร่ในสยาม หลังเสร็จประพาสอินเดีย ชวาและสิงคโปร์ น้ำแข็งในตอนแรก ๆ ก็ยังไม่สามารถผลิตในประเทศได้ จึงต้องนำเข้าจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อไทยสั่งเครื่องทำน้ำแข็งเข้ามาก็เริ่มมีการทำไอศกรีมกินกันมากขึ้น ถือว่าไอศกรีมเป็นของเสวยเฉพาะสำหรับเจ้าขุนมูลนายเท่านั้น โดยไอศกรีมในพระราชวังนั้นจะทำจากน้ำมะพร้าวอ่อน ใส่เม็ดมะขามคั่ว
ต่อมเมื่อสยามเริ่มมีโรงงานน้ำแข็งขนาดใหญ่ในช่วงปี พ.ศ. 2448 หรือราว ๆ ค.ศ.1905 ไอศกรีมจึงเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จากนั้นชาวบ้านมีการปรับปรุงสูตรใหม่โดยนำ “กะทิ” มาใช้ทดแทนนมและครีม เป็นไอติมกะทิแบบเริ่มแรกมีลักษณะเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ต่อมามีการพัฒนาโดยนำกะทิไปปั่นผสมกับน้ำตาลและน้ำแข็ง จนได้เนื้อไอศกรีมที่ละเอียดขึ้น กินคู่กับเครื่องเคียงหลากหลายอย่าง เช่น ลูกชิด ลอดช่อง ขนุนฉีก มันเชื่อม โรยหน้าด้วยถั่วลิสง
ส่วน ไอศกรีมหลอด หรือไอศกรีมแท่งก็เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 โดยใช้น้ำหวานใส่หลอดสังกะสีและเขย่าให้แข็ง และมีก้านไม้เสียบ โดยจะใส่ถังขับไปขายตามถนน สั่นกระดิ่งเป็นสัญญาณเพื่อเรียกลูกค้า นอกจากนี้ยังมีจุดขายที่การลุ้นไอศกรีมฟรีจากไม้เสียบที่หากมีสีแดงป้ายอยู่ก็จะได้กินฟรีอีกหนึ่งแท่งด้วย ซึ่งไอศกรีมแบบหลอดก็มีการพัฒนาจนมาเป็นไอศกรีมโบราณที่มีส่วนผสมของนมโดยมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม อาจทานเป็นแท่ง หรือตัดใส่ถ้วยรับประทานก็ได้
ส่วนใครอยากลองทำไอศกรีมกินเองอย่ารอช้า มาทำไอศกรีมแบบง่าย ๆ กัน ขอแค่มี วิปปิงครีม 30 ml. นมข้น 100 g. และกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา วิธีทำ ตีวิปปิงครีมจนเซตตัว ใสนมและกลิ่นวนิลา ตีให้เข้ากัน แช่ช่องฟรีซ 4-6 ชม. แล้วตักเสิร์ฟ จะได้รสสัมผัสแบบเกล็ดหิมะเบา ๆ ..แล้วจะรู้ว่าฝีมือของเรานั้นสุดยอดขนาดไหน
https://www.gourmetandcuisine.com/stories/detail/1615
https://www.wongnai.com/food-tips/all-about-ice-cream?ref=ct
http://www.unyaicecream.com/article/ประวัติไอศกรีม
https://th.wikipedia.org/wiki/ไอศกรีม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น