หอยนางรม มีชื่อสามัญ คือ Oyster หอยนางรมมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมเลี้ยงกันอยู่โดยทั่วไปนั้น แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ด้วยกันคือ หอยนางรมพันธุ์เล็กหรือหอยนางรมปากจีบ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Saccostrea commercialis หอยนางรมพันธุ์นี้มีเลี้ยงมากทางภาคตะวันออก ส่วนหอยรมอีกสองพันธุ์ที่เหลือเป็นหอยนางรมที่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่เรียกว่า หอยตะโกรม (Crassostrea belcheri) และหอยตะโกรมกรามดำ (C.lugubris) มีการเลี้ยงกันบ้างในภาคตะวันออก แต่การเลี้ยงส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตจังหวัดในภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สถาบันหัวใจและปอดแห่งชาติของแคนาดา ระบุว่า หอยนางรมเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เป็นแหล่งของวิตามินเอ บีหนึ่ง บีสอง บีสาม ซี และดี การบริโภคหอยนางรมตัวที่มีขนาดกลาง 4-5 ตัว ช่วยให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุประเภทเหล็ก ทองแดง ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี แมงกานีส และฟอสฟอรัส สถาบันหัวใจและปอดแห่งชาติของแคนาดา ระบุว่า หอยนางรมอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร คือเป็นแหล่งของวิตามินเอ บีหนึ่ง (ไทอามิน) บีสอง (ไรโบฟลาวิน) บีสาม (ไนอาซิน) ซี (กรมแอสคอร์บิค) และดี (แคลซิฟีรอล)
ประโยชน์ของหอยนางรม
- กระตุ้นระบบสืบพันธุ์ และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
- ลดระดับไขมันในเลือด
- ลดระดับความดันโลหิต
- รักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุน
- รักษาโรคไวรัสตับอักเสบ บี
- บำรุงสายตา
การบริโภคหอยนางรมตัวที่มีขนาดกลาง 4-5 ตัว ช่วยให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุประเภท แร่เหล็ก ทองแดง ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี แมงกานีสและฟอสฟอรัส อย่างไรก็ตาม อาหารดิบ อาจมีแบคทีเรียผู้ที่ป่วยด้วยโรคตับ มะเร็งโรคระบบภูมิคุ้มกัน
ข้อควรระวัง ไม่ควรรับประทานหอยนางรมดิบ อาจทำให้มีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ เนื่องจากเชื้อจุลินทรีย์ Vibrio parahaemolyticus หรือ VP ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในกุ้ง กั้ง ปู และหอย ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบหากกินดิบๆ หรือปรุงไม่สุกเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้จะทำให้มีอาการท้องเสีย เป็นตะคริวในช่องท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ปวดหัว มีไข้ และหนาวสั่น ขึ้นอยู่กับภูมิต้านทานของแต่ละคน เชื้อโรคจะใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 4-96 ชั่วโมง แต่โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ราว ๆ 15 ชั่วโมงหลังจากได้รับเชื้อเข้าทางปาก
นอกจากเชื้อ VP แล้ว การกินหอยนางรมดิบ ยังอาจได้รับเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) เชื้อแคมไพโลแบคเทอร์ (Campylobacter) หรือสารพิษในกลุ่ม Shellfish Poisoning ซึ่งมีอันตรายมากกว่าและอาจถึงขั้นเสียชีวิต ผู้ที่ต้องระวังเป็นพิเศษในการกินหอยนางรมสด คือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคตับ (มีความเสี่ยงมากกว่าปกติถึง 200 เท่า) รวมถึงคนที่เป็น โรคไต มะเร็ง เบาหวาน และโรคเอดส์ด้วย
หากรับประทานหอยนางรมแล้วปรากฏตัวอย่างอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาทันที
- สัญญาณการติดเชื้อ เช่น มีไข้ ตัวสั่น มีผื่นและตุ่มคันขึ้นตามผิวหนัง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือช็อค
- สัญญานอาการแพ้ เช่น ชาในปาก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีผื่นคันตามผิวหนัง หน้าบวม คอบวม หายใจไม่ออก วิงเวียน หมดสติ หรือช็อค
https://www.pobpad.com/หอยนางรม-ประโยชน์ต่อสุข
https://th.wikipedia.org/wiki/หอยนางรม
https://www.oonorganic.com/Article/Detail/148
http://lib3.dss.go.th/fulltext/dss_knowledge/BSTI_07_2560_Oysters.pdf
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น