หน้าฝนมักจะเป็นช่วงที่มีโรคระบาดต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ โรค RSV (Respiratory Syncytial Virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดติดเชื้อทางเดินหายใจ สามารถเกิดการติดเชื้อได้ทั้งในเด็ก เด็กเล็กและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว หากติดเชื้อ RSV อาจจะมีอาการรุนแรงมาก เพราะปัจจัยที่ทำให้อาการของโรครุนแรง คือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น เช่น ผู้ที่มีอายุ 65 ปี กับ 85 ปี ร่างกายและระบบภูมิคุ้มกันจะแตกต่างกันมาก
พบได้มากช่วงมิถุนายนถึงธันวาคมของทุกปี ไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก ปาก ผ่านการสัมผัสฝอยละอองจากการไอ จามของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ RSV
อาการ ระยะแรกมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ น้ำมูกในเด็กเล็กหากเชื้อลุกลามไปทางเดินหายใจส่วนล่าง อาจส่งผลให้เกิดอาการหลอดลมฝอยและปอดอักเสบได้
สำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น เป็นโรคหัวใจ โรคปอด โรคไต หรือผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่ต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับเชื้อ RSV แทนที่อาการจะเป็นแค่ไข้หวัด แต่อาการกลับรุนแรง เชื้อลุกลามลงปอดกลายเป็นปอดอักเสบ นอกจากนี้ ยังมีเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นที่เกาะในจมูกและคอ ที่สามารถโจมตีซ้ำเติมเป็นปอดอักเสบรุนแรงได้อีกด้วย
ตัวการแพร่เชื้อ RSV ที่สำคัญ คือ ลูกหลานที่นำเชื้อจากโรงเรียนกลับไปให้คนในครอบครัว ผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวมักจะได้รับเชื้อจากลูกหลาน ซึ่งอันตรายอย่างมาก เพราะสามารถติดเชื้อ RSV กันได้หลายครั้ง และมีโอกาสกลับมาเป็นได้บ่อยเกือบทุกปี โดยติดต่อผ่านการไอ จาม ทำให้เชื้อฟุ้งกระจาย ติดต่อกันได้
การป้องกันสามารถทำได้เหมือนกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสทั่วไป คือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ไม่นำมือสัมผัสใบหน้าและตา หมั่นดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย กินอาหารที่สุก สะอาด และมีประโยชน์ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง อีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันโรคติดเชื้อ RSV ในผู้ใหญ่ คือ วัคซีน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น