โรคบูลิเมียหรือโรคบูลิเมียเนอร์โวซา หรือโรคล้วงคอ คือหนึ่งในอาการทางจิตเวชที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อาการของผู้ที่เป็นโรคบูลิเมีย ได้แก่ มีการรับประทานอาหารปริมาณมากในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เนื่องจากกลัวน้ำหนักขึ้น จึงทำการให้ตัวเองอาเจียนหรือใช้ยาระบาย ผู้ที่เป็นโรคบูลิเมียบางราย มีการออกกำลังกายอย่างหักโหม อดอาหาร หรือใช้ยาลดความอ้วน หรือสารเสพติดเพื่อลดน้ำหนักอีกด้วย
อาการของโรคบูลิเมียจะมีทั้งอาการทางกาย พฤติกรรม และอารมณ์ ถึงแม้จะยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่โรคบูลิเมียอาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัยประกอบกัน ได้แก่พันธุกรรม สังคม หรือสุขภาวะทางอารมณ์ วิธีป้องกันโรคบูลิเมีย ได้แก่ การให้ความรู้ และการตระหนักถึงอาการของโรค
นอกจากนี้ อิทธิพลจากสื่อ และวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยมอาจส่งผลต่อมุมมองเรื่องรูปลักษณ์และการเห็นคุณค่าในตนเองของผู้ป่วย นอกจากนี้ ความเครียดและการรู้สึกควบคุมหรือรับมือต่อสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตไม่ได้ อาจมีส่วนทำให้เป็นโรคบูลิเมียได้
โรคบูลิเมียจะส่งผลต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โรคนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น แต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้คนทุกวัยได้ ผู้คนราว 1% ถึง 2% จะประสบกับโรคบูลิเมียในแต่ละปี
สาเหตุของโรคบูลิเมียสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละคน และรวมถึงปัจจัยหลายประการ บุคคลบางคนได้รับอิทธิพลจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพันธุกรรมมากกว่า ในขณะที่บางคนพัฒนาเป็นโรคบูลิเมียเนื่องมาจากปัญหาสุขภาพจิตหรือความสัมพันธ์กับการออกกำลังกายและการรับประทานอาหาร
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออาการผิดปกติทางการกินและอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เช่น สภาพแวดล้อม พันธุกรรม ภาวะสุขภาพจิตที่เกิดร่วมกัน การออกกำลังกาย และการรับประทานอาหาร ปัจจัยหลายประการสามารถส่งผลต่ออาการผิดปกติทางการกินของบุคคลได้
อาการของโรค
- หมกหมุ่นเรื่องรูปลักษณ์หรือน้ำหนักตัว
- รับประทานอาหารปริมาณมากเกินพอดี และพยายามกำจัดอาหารที่รับประทานไปอย่างลับ ๆ
- เป็นกรดไหลย้อน
- ตาแดงก่ำ
- ท้องผูก
- ขาดน้ำ
- ซึมเศร้าหรือวิตกกังวล
- ออกกำลังกายอย่างหักโหมเกินพอดี
- เป็นลมหมดสติ
- กลัวน้ำหนักขึ้น
- รู้สึกละอายใจหลังทานอาหารไปในปริมาณมาก
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- มีรอยแผลที่ข้อนิ้วมือ (จากการล้วงคอ)
- เข้าห้องน้ำบ่อยหลังรับประทานอาหาร
- ฟันสึกกร่อน
อาการแทรกซ้อน
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ลำไส้และกระเพาะอาหารมีแผล
- เกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล
- มีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น
- หลอดอาหารอักเสบ
- หัวใจวาย
- ฟันผุ
หากคุณมีอาการของโรคบูลิเมีย แนะนำให้เข้ารับการรักษาทันที
การป้องกัน
ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคบูลิเมียนั้นจะลดลงเมื่อรักษาอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวล นอกจากนี้ คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองหรือครูอาจช่วยปรับทัศนคติว่ารูปร่างผอมแห้งที่สื่อนำเสนอนั้นไม่ใช่รูปร่างที่ควรมี เป็นรูปร่างที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
ข้อมูล
https://www.medparkhospital.com/disease-and-treatment/bulimia-nervosa
https://my-clevelandclinic-org.translate.goog/health/diseases/9795-bulimia-nervosa?_x_tr_sl=en&_x_tr_tl=th&_x_tr_hl=th&_x_tr_pto=tc
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น