โรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรม: บทบาทของพ่อแม่และสภาพแวดล้อม

นพ.กษิดิษ ศรีสง่า

( كل مولود يولد على الفطرة فأبواه يهودانه، أو ينصرانه، أو يمجسانه كمثل البهيمة تنتج البهيمة، هل ترى فيها جدعاء)

ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้กล่าวว่า  “มนุษย์ทุกคนที่เกิดมานั้น มีความบริสุทธิ์ทั้งสิ้น แต่พ่อแม่ของเขาต่างหากที่ทำให้เขาเป็น ยะฮูดี หรือนัสรอนี หรือพวกบูชาไฟ เช่นเดียวกับฝูงสัตว์ ที่ต่างก็พาเดินตาม ๆ กันไปทั้งหมดนั่นเอง” (ฮะดีษบุคอรี 197:3)

จากฮะดีษ ที่ได้ยกมาข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของคนเราที่พระองค์อัลลอฮฺ ซบ. ได้ทรงให้บังเกิดมาว่า มีความบริสุทธ์ เพียงใดในตอนแรกกำเนิด  แต่สิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงไปคือ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขานั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อแม่ของพวกเขา ซึ่งเป็นทั้งผู้ให้กำเนิดผู้เลี้ยงดูและผู้วางแนวทางให้เขา ทำให้เขาเป็นคนดี หรือคนไม่ดี อยู่ในแนวทางสวรรค์หรือนรกต่อไป  นี่คือสัจธรรมที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงบอกแก่เราโดยผ่านทางท่านศาสดาฯ  เพื่อให้เป็นแนวทางแก่เราในการดำเนินชีวิต และเพื่อที่เราจะได้ดำรงชีวิตให้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องต่อไป 

ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องศาสนาเท่านั้น แม้แต่ในเรื่องการแพทย์เราเองก็ตาม  สาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ ในทางการแพทย์นั้น สามารถแบ่งได้เป็นสองอย่างใหญ่ก็คือ โรคที่เกิดจากกรรมพันธ์ หรือเป็นมาแต่กำเนิด ซึ่งมักจะพบได้แต่ไม่มากเท่าไรนักและมักไม่ร้ายแรงอะไรมากนัก เนื่องจากถ้าหากร้ายแรงมากก็จะตายตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่มีโอกาสมีทายาทสืบสกุลความบกพร่องนั้นต่อ ๆ มาได้ โรคเหล่านี้จึงพบได้ไม่มากนัก

แต่โรคที่พบได้บ่อยกว่า ก็คือโรคที่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม และการกระทำของเราเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการกระทำของเราเองนั้นส่วนมากก็จะเกิดจากความเคยชินในตอนเด็ก ๆ ที่พ่อแม่เรา ได้เลี้ยงดูเรามานั่นเอง ถ้าหากพ่อแม่เราชอบรับประทานอาหารมัน ๆ หรือรับประทานเนื้อสัตว์มาก ก็มักจะทำให้ลูกรับประทานเช่นนั้นแบบเดียวกัน ส่วนพ่อแม่ที่ชอบรับประทานผักผลไม้ ลูกก็มักจะเลียนแบบโดยรับประทานผักและผลไม้ตั้งแต่เล็ก ๆ และกลายเป็นความชอบเมื่อเติบใหญ่เช่นกัน ลักษณะนิสัยต่าง ๆ เหล่านี้ พอทิ้งไว้นาน ๆ แล้วก็กลายเป็นความเคยชินที่จะแก้ไขได้ยาก ดังนั้น ถ้าหากนิสัยเหล่านั้นเกิดเป็นสาเหตุของโรคใด ๆ ขึ้นมา ก็ยิ่งจะทำให้รักษาได้ยากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมความชอบได้โดยง่ายนั่นเอง

มนุษย์เราทุกคนเกิดมา ด้วยความแข็งแรงมากเกินกว่าที่เราเคยคาดเอาไว้ นักวิทยาศาสตร์หลาย ๆ ท่านเชื่อว่า แท้จริงมนุษย์นั้น ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีอายุได้ยืนถึง 120 ปีขึ้นไป แต่ปรากฏว่าน้อยคนนักที่สามารถจะมีอายุยืนได้ถึงเกินร้อยปี

นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ความแข็งแกร่งของร่างกายเราแต่เริ่มแรกนั้น มีมากมาย แต่กลับถูกสภาพแวดล้อม และนิสัยที่ไม่ดีต่าง ๆ ของเราเองมาทำลายเสีย ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากร่างกายได้อย่างเต็มที่ตามที่ควรจะเป็น เราจึงพบเห็นคนส่วนมาก เสียชีวิตกันภายในช่วงไม่เกินเจ็ดสิบปี แปดสิบปีเท่านั้นเอง ด้วยสาเหตุต่าง ๆ นา ๆ หรือถ้าอยู่เกินกว่านั่นก็มักจะมีสภาพร่างกายที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว แทบจะไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับโลกได้อีก

มีการค้นพบว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น มีความสัมพันธ์อย่างมากกับนิสัยการรับประทานอาหารของคนเรา โดยเขาพบว่าอัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นนั้นมีไม่มากนัก แต่พอคนญี่ปุ่นเหล่านั้นไปอยู่ในประเทศยุโรปหรืออเมริกา กลับมีอัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งอย่างเห็นได้ชัด

เช่นเดียวกับคนในแถบแอฟริกาที่มีอัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่น้อยกว่าคนในแถบยุโรปอย่างมีนัยสำคัญ

จากการสำรวจพบว่า คนญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นมักจะรับประทานอาหารที่ประกอบด้วยผักผลไม้ และปลาเป็นอาหารหลัก ส่วนคนญี่ปุ่นที่อพยพไปอยู่แถบอเมริกาเหนือกลับรับประทานอาหารพวกฟาสต์ฟู้ดเป็นหลัก   

เช่นเดียวกัน คนในแถบแอฟริกามักชอบทานอาหารพื้นบ้านธรรมชาติ ปรุงง่าย ๆ ประกอบด้วยผักผลไม้ และขนมปังสีน้ำตาล แตกต่างจากคนในประเทศยุโรปหรืออเมริกาที่ชอบรับประทานอาหารพวกขนมปังสีขาว แป้ง หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เป็นหลัก  โดยรับประทานผักผลไม้เพียงเล็กน้อย

ในลำไส้ของคนเรา เมื่อเรารับประทานอาหารจะมีน้ำดีถูกขับออกมาจากถุงน้ำดีบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น และถูกดูดซึมกลับไปใช้ใหม่ที่บริเวณลำไส้ใหญ่ น้ำดีนี้ถือเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง เมื่อไปโดนกับผนังลำไส้ใหญ่บ่อย ๆ เข้า ก็อาจจะทำให้ลำไส้ใหญ่นั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมะเร็งได้ แต่เมื่อเรารับประทานผักและผลไม้มาก ๆ มันจะก่อให้เกิดกากอาหารจำนวนมาก และกากอาหารนี้เอง เป็นตัวช่วยดูดซึม และซับน้ำดีเอาไว้ ทำให้น้ำดีไม่โดนดูดกลับไปใช้งานใหม่ น้ำดีจึงโดนผนังลำไส้ใหญ่น้อยลง ทำให้โอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลงด้วยประการฉะนี้

จึงสรุปเป็นสาเหตุได้ว่า มะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารของ คนเรานั่นเอง ที่กินผักผลไม้น้อย และกินอาหารพวกแป้งและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ มากเกินไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพฤติกรรมที่เกิดจากการเรียนรู้ และเลียนแบบจากพ่อแม่ หรือผู้ปกครองเกือบทั้งสิ้น

ดังนั้น พ่อแม่และผู้ปกครองจึงควรรำลึกอยู่เสมอว่า การปลูกสร้างลักษณะนิสัยอันใดก็ตามเข้าไปในตัวลูกของเรา อาจจะมีผลต่อสุขภาพร่างกายของเราได้ในอนาคต จึงต้องคิดให้ดีและรอบคอบก่อนจะทำอะไรลงไป ทั้งนี้เพื่อให้ลูกหลานของเรามีสุขภาพแข็งแรง ใช้ประโยชน์จากร่างกายที่พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ได้อย่างเต็มที่  

ทั้งนี้มิใช่เพื่อใคร แต่ก็เพื่อ ครอบครัว สังคม และศาสนาของเราทุก ๆ ท่านนั่นเอง


สุขสาระออนไลน์ ฉบับที่ 242
เดือนเมษายน 2568
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

www.muslim4health.or.th 

ความคิดเห็น