ลองสังเกตรอบตัวเราดู เราเห็นคนสูบบุหรี่ไฟฟ้ากี่คนในหนึ่งวัน แม้จะรู้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย แต่ปัจจุบันผู้คนสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากพกติดตัวได้ง่าย สะดวกต่อการสูบ ไม่จำเป็นต้องสูบในพื้นที่สูบบุหรี่เท่านั้น เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไม่ส่งกลิ่นเหม็น แต่เป็นน้ำยาแต่งกลิ่นหอม รูปทรงสวยงาม สีสันทันสมัย น่าซื้อ และหาซื้อได้ง่ายทางอินเทอร์เน็ต
คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน แต่จริง ๆ แล้ว ควันจากบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษที่ก่อให้เกิดโรครวมอยู่ด้วย ทั้งโลหะหนัก เช่น นิกเกิล ดีบุก และตะกั่ว ซึ่งก่อตัวกลายเป็นโมเลกุลฝุ่นขนาดเล็ก 1.0 และ PM 2.5 สร้างสามารถสร้างผลเสียต่อระบบการหายใจ ที่ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบเฉียบพลัน
หากคุณอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า ย่อมมีความเสี่ยง เนื่องจากควันมือสองจากผู้สูบจะมีสารระเหยที่จุดติดไฟจนเกิดควัน หากอยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบเป็นเวลานานก็อาจเกิดโรคใกล้เคียงกับผู้ที่สูบโดยตรง
ผลสำรวจเมื่อปลายปี 2567 ระบุว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทยปี 2565 ด้วยการสูบบุหรี่ไฟฟ้า มีเพิ่มสูงขึ้นจาก 3.3 % เป็น 17.6 % หรือเพิ่มขึ้น 5.3 เท่า จากปี 2558, เด็กและเยาวชน สูญเสียเงินซื้อบุหรี่ไฟฟ้า เฉลี่ยเดือนละ 2,245 บาท
สิ่งที่น่าตกใจก็คือ บริษัทผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้า ทุนใหญ่ข้ามชาติ หวังผลที่เด็กอายุน้อย จึงออกแบบผลิตภัณฑ์พุ่งเป้าหมายไปที่เด็กวัยประถมอย่างชัดเจน ทั้งผลิตภัณฑ์นมกล่อง, ตัวตุ๊กตา, อาร์ตทอย เนื่องจากเด็กในวัยนี้เป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง และมักบอกต่อกับเพื่อนๆ ได้ไม่ยาก จึงออกแบบบุหรี่ไฟฟ้าสำหรับเด็ก มีสีสันสดใส มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นลูกอม, ขนม,นม, น้ำหวาน และอาหารที่เด็ก ๆ คุ้นเคย
การออกแบบจึงเน้นมาเพื่อตบตา ผู้ปกครองครู และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ที่ไม่รู้จักบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้คิดไปว่าเป็นกล่องขนม กล่องนม ของกินเล่น ทั้งหมดล้วนถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการขายในตลาดและง่ายในการจับกลุ่มเป้าหมายสำคัญซึ่งได้แก่ “เด็ก”
ปัจจุบันพบว่าเด็กอายุน้อยกว่า 10 ขวบสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันแล้ว เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของบุหรี่ไฟฟ้าที่ดึงดูดเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปการ์ตูน และมีกลิ่นหอม ดังที่กล่าวมาแล้ว
บุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินที่มีฤทธิ์เสพติดสูงเทียบเท่าเฮโรอีน และยังออกฤทธิ์ทำลายสมองเด็ก ทำให้เด็กมีปัญหาการเรียนรู้ คิดช้าลง ความจำแย่ลง ทักษะการตัดสินใจและแก้ปัญหาบกพร่อง และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ซ้ำยังเสี่ยงต่อการไปใช้สิ่งเสพติดอื่น ๆ เช่น กัญชา ยาบ้า
มาช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกหลานของเราห่างไกล้จากบุหรี่ทุกชนิด โดย
1. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว
- ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน ไม่สูบบุหรี่ในที่ใกล้ตัวเด็ก เพราะเด็กจะได้รับไอหรือควันจากบุหรี่ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กด้วยการไม่สูบบุหรี่ เพราะผลจากการวิจัยพบว่าลูกที่พ่อแม่สูบบุหรี่ มีโอกาสติดบุหรี่มากกว่าบ้านที่ไม่มีคนสูบบุหรี่มากถึง 3 เท่า และเมื่อเด็กติดบุหรี่แล้วจะมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงที่จะนำไปสู่ยาเสพติดอื่น เช่น สุรา ยาบ้า เป็นต้น
2. สอดแทรกความรู้
- บอกให้ลูกหลานทราบว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
- ให้ความรู้กับเด็กเมื่อพบเห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าทางสื่อต่าง ๆ เพราะเด็กอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับการโฆษณาจากสื่อ
- ชี้แนะเรื่องอันตรายจากสารนิโคติน และสารเคมีก่อโทษ ผลเสียของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ที่ส่งผล ต่อสุขภาพในระยะยาว
- ฝึกให้เด็กรู้จักคิด ตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญขึ้น เช่น ไม่ไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ไม่เข้ากลุ่มเพื่อนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า
3. ดูแลช่วยเหลือ
- ผู้ปกครอง หรือคนใกล้ชิดต้องรู้จักรูปลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ของบุหรี่ไฟฟ้า โดยสังเกตสิ่งที่มีลักษณะ เป็นหลอดดูด มีกลิ่นหอม อาจตรวจสอบดูจากอุปกรณ์การเรียนหรือของเล่น
- สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้อบอุ่น พูดคุยและรับฟังลูกหลานบ้าง ในเรื่องที่เด็กต้องเรียนรู้และรับมือ เช่น มีเพื่อนสูบบุหรี่ไฟฟ้า จากนั้นจึงค่อยให้ข้อมูลและความรู้เพิ่มเติม
- ทำความรู้จักกับเพื่อนลูก ว่ามีใครสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือติดยาเสพติด พยายามตักเตือน ห้ามปราบ แจ้งผู้ปกครองของเพื่อนลูกที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า และให้ความรู้เรื่องโทษและภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า
- เมื่อรู้ว่าเด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้า ควรพูดคุยด้วยดีเพื่อหาทางออกร่วมกัน ให้กำลังใจในการพยายามเลิก และหากิจกรรมให้เด็กทำ
นอกจาก พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ต้องช่วยกันเฝ้าระวังเป็นแบบอย่างที่ดี คอยให้คำแนะนำ ให้ความรู้ และดูแลช่วยเหลือแล้ว ยังมี คุณครู ที่จะต้องคอยช่วยสอดส่องดูแล ร่วมอีกแรงหนึ่งด้วย ถ้าบ้านและโรงเรียนร่วมด้วยช่วยกัน ก็จะทำให้ลูกหลานปลอดภัยจากอันตรายของสารนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าหรือสิ่งเสพติดอื่น ๆ ได้
https://www.thaipbs.or.th/news/content/349584
https://prgroup.hss.moph.go.th/medias/article/2796-3-วิธี-ปกป้องลูกหลานจากภัย-“นิโคติน”-ในบุหรี่ไฟฟ้า
https://mahidol.ac.th/th/shield-smoking/

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น