แพทย์หญิงจินตนา โยธาสมุทร
วันหนึ่งแม่สังเกตว่าอาดีฟใช้มือเกาบริเวณฝ่ามือทั้งสองข้างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลานอนตอนกลางคืนเขาจะเกามาก และเช่นเดียวกันเธอเองเริ่มรู้สึกคันบริเวณแขนและมือ แม่ขอดูมือของอาดีฟจึงเห็นว่ามีผื่นเป็นตุ่มแดง มีลักษณะเป็นรอยนูนคดเคี้ยวคล้ายเส้นด้ายสั้น ๆ ยาวประมาณ 5–15 มิลลิเมตร ตุ่มแดงบางแห่งกลายเป็นตุ่มน้ำใส แม่สงสัยว่าลูกจะเป็นโรคผิวหนังชนิดใดชนิดหนึ่ง จึงพาไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนัง ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อแพทย์ตรวจแล้วให้ความเห็นว่าทั้งสองคน เป็น “โรคหิด” พร้อมอธิบายว่า
หิดเป็นโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากตัวไรซึ่งมีขนาดเล็กมาก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น โรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายทุกเพศทุกวัย โดยมีการติดเชื้อผ่านทางผิวหนังทำให้เกิดเป็นตุ่มแดง มีลักษณะเป็นรอยนูนคดเคี้ยวคล้ายเส้นด้าย สั้นยาวประมาณ 5 -15 มิลลิเมตร ตุ่มแดงบางแห่งกลายเป็นตุ่มน้ำใส ตุ่มเหล่านี้จะกระจายไปทั่วตัว ตามง่ามมือ ง่ามเท้า ข้อพับ ข้อศอก รักแร้ ใต้ราวนม รอบหัวนม สะดือ บั้นเอว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลูกอัณฑะ และอวัยวะเพศ แต่พบได้น้อยบริเวณใบหน้าและศีรษะ
โรคนี้มักเป็นกันทั้งครอบครัว หรืออาจมีการระบาดในชุมชนซึ่งมีสุขอนามัยไม่ดี แต่ไม่ติดต่อกันในระบบทางเดินหายใจหรือการรับประทานอาหารร่วมกัน แพทย์จึงเขียนใบสั่งยาให้แม่และลูกคู่นี้พร้อมอธิบายว่า
“หมอจะให้คุณเลือกว่าจะใช้ยาทาชนิดครีม หรือชนิดน้ำ ตามความสมัครใจ ถ้าเป็นชนิดครีมหรือเจล คือ แกมมาเบนโซเฮดซาคลอไรด์ (Gamma bey zone hexachloride) 0.3 – 1% ใช้ทาหลังอาบน้ำ โดยให้ยาทั้งตัวตั้งแต่ระดับคอลงมาจนถึงปลายเท้าทิ้งไว้นาน 12 ชั่วโมง จึงอาบน้ำล้างออก โดยทาครั้งเดียว หลังทายาแล้วอาจมีอาการคันอยู่สักระยะหนึ่ง แต่ไม่จำเป็นจะต้องทายาซ้ำอีก แต่ถ้ายังไม่หายให้ปรึกษาแพทย์อีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าต้องการจะใช้ยาทาชนิดน้ำ คือ เบนซิลเบนโซเอต (benzyl benzoate) ในเด็กใช้ชนิด 12.5% ในผู้ใหญ่ให้ใช้ชนิด 25% ทายาหลังอาบน้ำ โดยทาเป็นแผ่นฟิลม์บาง ๆ ให้คลุมทุกพื้นที่ของผิวหนังตั้งแต่ระดับคอลงมาจนถึงปลายเท้า ทาทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะตามซอกนิ้วมือนิ้วเท้าและใต้เล็บ เพื่อให้เนื้อยาเข้าไปถึงได้ทุกจุด เมื่อทายาแล้วทิ้งไว้นาน 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงอาบน้ำล้างออก ทาติดต่อกัน 3 วัน”
แม่ของอาดีฟเลือกใช้ยาชนิดน้ำ เธอคาดว่าจะสามารถทำให้โรคหายขาดได้โดยเร็ว แพทย์กล่าวต่อไปว่า
“หมอจะให้ยาครีมสเตียรอยด์อ่อน ๆ ใช้ทาวันละ 2 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการคัน แต่ก็มีอาการคันมากให้รับประทานยาแก้แพ้ช่วยลดอาการคันด้วย หมอจะให้ยาปฏิชีวนะกับลูกคุณ เนื่องจากเห็นมีการติดเชื้อที่ผิวหนังด้วย และจะให้ยาไปด้วยสำหรับทุกคนที่อยู่ในบ้านเดียวกัน เนื่องจากถือว่าเป็นผู้สัมผัสโรค แม้จะยังไม่มีอาการหรือยังไม่มีตุ่มคันก็ตาม นอกจากนั้นขอให้ทุกคนทำความสะอาดเสื้อผ้า เครื่องนอน เครื่องใช้ทั้งหมด ด้วยการต้ม หรือนำออกตากแดด ให้ดูแลรักษาความสะอาดที่พักอาศัย รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล อาบน้ำถูกสบู่วันละ 1-2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยง เช่น สถานที่กักขัง สถานสงเคราะห์ หรืออยู่ใกล้ชิดกับคนที่มีความเสี่ยง หลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว เสื้อผ้า รองเท้า และล้างรองเท้าให้สะอาด และนำไปผึ่งแดดฆ่าเชื้อ”
แม่ของอาดีฟลาแพทย์กลับ นำใบสั่งยาเพื่อไปรับยาที่ห้องจ่ายยาเภสัชกรรม โรงพยาบาล และมั่นใจว่าทุกคนในบ้านจะหายจากโรคนี้ได้อย่างแน่นอน จึงได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้อง

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น