ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)ได้กล่าวไว้ว่า “การที่ท่านยิ้มแย้มเมื่อพบกับพี่น้องของท่านนั้นเป็นทาน” (บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม)
“ยิ้ม” เป็นสัญลักษณ์ที่เราใช้แทนความรู้สึกที่มีความสุข ยิ้มช่วยสร้างสุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมถึงชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
ยิ้มเป็นนิสัยที่ดี บ่งบอกว่าเราเป็นคนคิดบวกและมองโลกในแง่ดี ยิ้มไม่เพียงแต่จะทำให้เรามีความสุข แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์และทำให้คนรอบข้างมีอารมณ์ที่ดีขึ้นด้วย
เมื่อเรายิ้ม ร่างกายจะผลิตสารสื่อประสาทที่เป็นประโยชน์ออกมาหลายชนิด ได้แก่ เอนดอร์ฟิน (Endorphin) หรือ “สารแห่งความสุข” สารแห่งความสุขไม่เพียงช่วยให้เรามีความสุขเท่านั้น แต่ยังสามารถออกฤทธิ์เป็นยาบรรเทาความเจ็บปวดและความเครียดได้ ยังมีสารเซโรโทนิน (Serotonin) ที่ช่วยต้านความเศร้าและช่วยปรับให้อารมณ์ดีขึ้น ยิ้มช่วยลดระดับสารคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ยิ้มช่วยเพิ่มระดับโดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกพอใจและความสำเร็จ
มีผู้กล่าวว่า ยิ้มกับหัวเราะเป็นญาติกัน เพราะเพียงการเปล่งเสียงหัวเราะออกมาย่อมหมายถึงจิตใจถูกเติมเต็มไปด้วยความสุขจนทะลักออกมา มักทำให้ทั้งตัวเราและคนรอบข้างรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นตามไปด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อหัวเราะ คือการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลถึงการกระตุ้นหัวใจ ปอด และกล้ามเนื้อ ทำให้สมองหลั่งเอนดอร์ฟิน ออกมามากขึ้น รวมทั้งเป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตชั่วครู่ จากนั้นลดให้ต่ำลง ผลคือเกิดความรู้สึกผ่อนคลายตามมา
ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่มีรอยยิ้มสวยมีโอกาสได้งานมากกว่าผู้ที่ไม่ยิ้มถึง 58% รวมไปถึง 48% ของผู้คนจะจำเราได้จากรอยยิ้มที่สวยงามมากกว่าลักษณะอื่น ๆ ของเรา ผลการศึกษาพบว่าผู้ที่ยิ้มบ่อยมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าผู้ที่ไม่ยิ้มถึง 10% ขณะที่ 72% ของผู้คนรู้สึกว่าการยิ้มช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและครอบครัว
แม้ว่าการยิ้มจะมีหลายแบบ เช่น ยิ้มจากใจ ยิ้มตามมารยาท ยิ้มแก้เขิน ยิ้มอย่างฝืน ๆ แต่ไม่ว่าเราจะยิ้มเช่นไร ผลลัพธ์ที่ก็ไม่ต่างกัน เพราะว่า ยิ้มเป็นทาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น