นานมาแล้ว ผู้เขียนเคยดูละครวัยรุ่นเรื่องหนึ่งมีตัวละครชื่อว่านายเอ้อระเหย ที่ได้ยินชื่อก็ทำให้นึกถึงภาพของคนที่มีพฤติกรรมในลักษณะที่ไม่กระตือรือร้นในการทำงาน อืดอาด ปล่อยตัวตามสบาย ไม่รักษาเวลา หรือคำพูดที่ให้ไว้กับผู้คนรอบ ๆ ตัว
คนเราไม่น่าจะมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่งติดตัวมาตั้งแต่เกิด ยิ่งที่เป็นเรื่องที่ตนชอบด้วยแล้ว เราคงไม่ปล่อยให้หลุดไปได้เด็ดขาด แต่การที่คนเรากลายเป็นคนเชื่องช้า เฉื่อยชา ปล่อยเวลาไปเรื่อย ๆ ไม่รับผิดชอบต่องาน ทำตัวเป็น “นายเอ้อระเหย” นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าคงมัวแต่วิตกอยู่ตลอดว่ายังมีงานค้างอยู่มาก และตัดสินใจไม่ได้ว่าจะหยิบอะไรขึ้นมาก่อน ก็เลยทำให้ทุกงานที่รับผิดชอบ กองใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเพิ่มความสูญเสียต่อองค์กรมากขึ้นไป จะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
และคนผัดวันประกันพรุ่งก็มักไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ เพราะมัวแต่กังวลว่ายังมีงานค้างอยู่อีกมากมาย ในที่สุดก็ทำงานอย่างขอไปที และคิดเข้าข้างตัวเองว่า “...เวลามันน้อย...ทำดีที่สุดแล้ว...”
หรืออาจมาจากสาเหตุที่นายเอ้อระเหย เป็นคนไม่ชอบรับคำสั่ง หรือไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนั้น เกิดแรงต้านอยู่ภายใน แต่ไม่สามารถเสนอเหตุผลโต้แย้งได้ ก็เลยเก็บงานใส่ลิ้นชัก ใส่กุญแจและปล่อยเวลาให้ผ่านไป ทำลายภาพพจน์ของตนเองไปเรื่อย ๆ
และถ้าการเป็นนายเอ้อระเหย เป็นนิสัย หรือความสะเพร่า ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เราก็สามารถที่จะเอาชนะมันได้ เพียงแต่ว่าต้องรู้จักอดทนในการทำงานในช่วงแรกให้นานขึ้นสักสิบนาที แน่นอนในสองสามนาทีแรก เราอาจจะรู้สึกหงุดหงิด แต่เมื่อเวลาผ่านไปงานก็จะง่ายขึ้นและไหลลื่นไปเองในที่สุด
โดยปกติแล้ว ความก้าวหน้าของคนเรา มาจากผลงานที่เกิดขึ้นจากความรับผิดชอบในเนื้องาน ซึ่งแน่นอนที่สุด ถ้าเนื้องานและความรับผิดชอบมีน้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ก็คงจะลดน้อยไปอย่างน่าเสียดาย
- ทำตารางงานที่ต้องทำ จัดลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วนของงาน
- เลือกงานที่ด่วนที่สุดก่อน แม้จะเป็นงานใหญ่ ก็ต้องยอมรับในอุปสรรคของงาน
- กำหนดกรอบเวลาของงาน แต่ละชิ้นงาน
- รู้จักบันทึก ขั้นตอนของงานที่ทำ เพื่อให้การปรับปรุงและแก้ไขได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าลองทำตามข้อเสนอเหล่านี้แล้ว ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ คงต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือนักจิตวิทยาให้ช่วยหาทางแก้ไขให้
ที่สำคัญ ...เมื่อนัดหมอแล้ว อย่าเลื่อนนัดก็แล้วกัน!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น