ผมอายุได้ 26 ปี ทำงานอยู่ในเมืองใหญ่ “กรุงเทพฯ” ทำงานได้ไม่นานก็รู้สึกไม่สบาย เจ็บหน้าอก ผมไอมาก และไม่อยากอาหาร ผมไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ในตอนแรกผมได้รับยาและกลับบ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้น จนต้องกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ในที่สุด เมื่อหมอตรวจผลเอกซเรย์ ผมจึงรู้ว่า “ผมเป็นวัณโรค”
สาเหตุมาจากการสูบบุหรี่จัดของผมเอง ผมสูบบุหรี่จัดถึงขนาดที่เรียกว่า เวลาขึ้นรถเมล์กลับบ้านหลังเลิกงาน เมื่อเดินชิดในเข้าไปใกล้ผู้โดยสารคนอื่น โดยเฉพาะสาว ๆ พวกเธอจะรีบเดินหนีออกไปให้ไกล เป็นเช่นนี้หลายครั้ง จนวันหนึ่งเมื่อกลับถึงบ้านผมลองดมเสื้อดู ครับ ..กลิ่นบุหรี่ติดตามเสื้อผ้า คละคลุ้งไปหมด
เมื่อรู้ว่าเป็นวัณโรค ผมตกใจและกลัวมาก จึงรีบเข้ารับการรักษา โดยกินยาอยู่เกือบสองปี ระหว่างการรักษา ผมไม่กล้าจะไปยืนใกล้ใคร กลัวว่าเขาจะติดโรค และรู้สึกว่ามันช่างกินเวลานานเหลือเกิน
เมื่อเสร็จสิ้นการรักษาวัณโรคและหายดีแล้ว ผมดีใจที่ได้สุขภาพดีกลับมา และไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่อีกเลย
ผมสูบบุหรี่จนเป็นวัณโรค ปัจจุบันรักษาหายขาด แต่เพื่อน ๆ อีกหลายคนยังสูบบุหรี่อยู่ และไม่รู้ว่าจะเป็นโรคร้ายอะไร จะรักษาได้ทันหรือไม่ ยังเป็นคำถาม
สถานการณ์วัณโรคทั่วโลกจาก 'องค์การอนามัยโลก' ระบุว่า แต่ละปีมีผู้ป่วยประมาณ 10 ล้านคน โดยในปี 2566 สถานการณ์ผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทยประมาณการจำนวนผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ 111,000 คน แต่มีการรายงานการขึ้นทะเบียนรักษาเพียง 72,274 คน และเสียชีวิตจากวัณโรค ปีละ 13,700 คน โดยเป็นผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อเอชไอวีร่วมด้วยเสียชีวิต 2100 คน สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีโอกาสจะป่วยเป็นวัณโรค ประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคปอด กลุ่มผู้ต้องขังผู้อาศัยในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ/สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ป่วยโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ผู้ป่วยไตเรื้อรังหรือได้รับยากดภูมิ กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 65 ปีที่สูบบุหรี่หรือมีโรคร่วม ปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวาน กลุ่มผู้ใช้สารเสพติด ติดสุราเรื้อรัง และกลุ่มบุคลากรสาธารณสุข
วัณโรคเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ติดต่อจากคนสู่คนผ่านอากาศ โดยเมื่อผู้ป่วยไอ จาม ไม่ปิดปากทำให้เกิดละอองฝอย ผู้อยู่ใกล้สูดหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อวัณโรคเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดการติดเชื้อและป่วยได้ โดยวัณโรคพบได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ที่พบมากคือวัณโรคปอด
อาการสำคัญของวัณโรคปอด คือ ไอแห้ง ๆ ติดต่อเกิน 2 สัปดาห์ ไอมีเสมหะปนเลือด อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลด เจ็บหน้าอก ไข้ต่ำ ๆ
การป้องกันโรค เด็กแรกเกิดควรได้รับการฉีดวัคซีน BCG (วัคซีนแรกเกิด) ประชาชนทั่วไปควรดูแลสุขภาพออกกำลังกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตรวจการทำงานของปอด เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดผู้ป่วยวัณโรค โดยเฉพาะผู้สัมผัสผู้ป่วยใกล้ชิด บุคลากรทางการแพทย์ ควรได้รับการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อคัดกรองโรค และหากมีอาการน่าสงสัยว่าจะเป็นวัณโรค ควรรีบไปพบแพทย์
วัณโรครักษาหายได้ มียารักษาที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้เวลารักษา 6-8 เดือน ต้องกินยาครบทุกเม็ด ทุกมื้อ ไม่หยุดยาเอง หากรักษาไม่ต่อเนื่อง หยุดยาเอง อาจก่อให้เกิดเชื้อดื้อยา ต้องใช้เวลาในการรักษานาน 9-18 เดือน
เลิกบุหรี่ คือคำตอบที่ดีที่สุด ไม่ได้หยุดแค่วัณโรค แต่โรคร้ายอื่น ๆ อีกด้วย อย่ารอให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์แล้วไปรักษา ถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไป
https://ddc.moph.go.th/odpc6/news.php?news=41795&deptcode=odpc6&news_views=1160
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น