เด็กและเยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้าแซงหน้าผู้ใหญ่

การตลาดของบุหรี่ไฟฟ้าใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่มีเจตนาจะมุ่งเป้าเจาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ผ่านการตลาดที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์และบรรดาอินฟลูเอนเซอร์โดยเฉพาะ อีกทั้งบุหรี่ไฟฟ้ามักมาในรูปของบรรจุภัณฑ์ที่มีสีสันสวยงาม ทั้งยังมีรสชาติที่หลากหลายให้เลือกถึงกว่า 16,000 แบบ บุหรี่ไฟฟ้าบางยี่ห้อมีรูปตัวการ์ตูน ทั้งยังออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจคนหนุ่มสาวเป็นพิเศษด้วย "มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นเด็กและเยาวชนอย่างน่าตกใจ โดยอัตราการเพิ่มขึ้นนี้แซงหน้ากลุ่มผู้ใหญ่ในหลายประเทศ" ดร.รูดิเกอร์ เครช ผู้อำนวยการด้านการส่งเสริมสุขภาพขององค์การอนามัยโลก กล่าว

องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงออกมาเตือนว่า อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่เด็กและเยาวชนนั้น มาแรงแซงหน้ากลุ่มผู้ใหญ่ไปไกลในหลายประเทศ

องค์การอนามัยโลกระบุว่า แม้แต่การได้เห็นโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ ก็สามารถเพิ่มความโน้มเอียงที่คนผู้นั้นจะสูบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นได้แล้ว ซึ่งนับวันไปจะกลายเป็นพฤติกรรมการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิมไปในที่สุด "งานวิจัยหลายชิ้นพิสูจน์ให้เห็นตรงกันว่า คนหนุ่มสาวที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า มีแนวโน้มสูงกว่าคนทั่วไปเกือบ 3 เท่า ที่จะหันไปสูบบุหรี่แบบดั้งเดิมในภายหลัง"

องค์การอนามัยโลกยังประมาณการว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 8 ล้านคน จากการใช้ยาสูบในแต่ละปี เนื่องจากสารนิโคตินในยาสูบทำให้เสพติดได้อย่างรุนแรง ทั้งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคทางเดินหายใจ โรคมะเร็งกว่า 20 ชนิด รวมทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด และกลุ่มอาการที่ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมอื่น ๆ

มีรายงานว่าประชากรโลกราว 82 ล้านคน สูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ชนิดที่ให้ความร้อนแต่ไม่ได้เผาไหม้ยาสูบ (heat-not-burn tobacco products)

ส่วนรายงานล่าสุดของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ในปี 2024 ระบุว่ามีเด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายทั่วประเทศ 1.63 ล้านคน สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็น 5.9% ของทั้งหมด ส่วนที่สหราชอาณาจักร สถิติในปี 2024 จากการสำรวจขององค์กรการกุศล ASH พบว่าเด็กวัย 11-17 ปี ราว 980,000 คน สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งคิดเป็น 18% ของทั้งหมด

ผลการสำรวจล่าสุดยังพบว่า อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังเพิ่มขึ้น ในหมู่ชาวอังกฤษทุกกลุ่มวัยที่มีอายุมากกว่า 16 ปี ซึ่งโดยรวมแล้วมีคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด 5.1 ล้านคน ในปี 2023

รายงานขององค์การอนามัยโลกยังประมาณการว่า เด็กอายุ 13-15 ปี อย่างน้อย 37 ล้านคนทั่วโลก สูบบุหรี่หรือยาสูบในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งรวมถึงบุหรี่มวนแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน และบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

ประเทศไทย ผลสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า/พอต ของเยาวชนไทย จำนวน 40,164 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 – 27 พ.ค. 2567 โดยกองสุขศึกษาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร (กทม.) พบว่า เยาวชนไทยอายุระหว่าง 6 - 30 ปีมีพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้า 18.6% เมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า เพศชายสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงที่สุด 21.49% รองลงมา LGBTQ+ 19.73% และเพศหญิง 16.22% เมื่อสอบถามเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจของเยาวชน พบว่ามีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า คือ เข้าใจว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้สามารถเลิกบุหรี่มวนได้ 61.23% เข้าใจว่านิโคตินส่งผลดีต่อร่างกาย 51.19% เข้าใจว่าน้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีส่วนผสมของนิโคติน 26.28% เข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย 23.28% และเข้าใจว่าควันบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย 12.53% นอกจากนี้เยาวชนยังมีความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้า/พอต อันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน 50.2% อีกด้วย

การแก้ไขปัญหา - บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โรงเรียน สื่อออนไลน์ และกิจกรรมรณรงค์ สร้างความตระหนักแก่ผู้ปกครองและครูเกี่ยวกับปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขภาพ สร้างพื้นที่ปลอดบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียนและสถานที่สาธารณะ ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์และกีฬาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า

การแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนไทยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และเยาวชนเอง เพื่อปกป้องสุขภาพและอนาคตของเยาวชนไทย

หากพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) 1166 สถานีตำรวจในพื้นที่

 

ข้อมูล
https://www.thecoverage.info/news/content/6947
https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/369544
https://www.bbc.com/thai/articles/cm2k2l77777o


สุขสาระออนไลน์ ฉบับที่ 245
เดือนกรกฎาคม 2568
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)
www.muslim4health.or.th 

ความคิดเห็น