แผนงานมุสลิมไทยเปี่ยมสุข: ใช้ศาสนาและชุมชนสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืน

ดาวุด ทับอุไร

แม้ประเทศไทยจะมีระบบสุขภาพที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ แต่ความไม่เท่าเทียมด้านสุขภาวะยังคงเป็นโจทย์ท้าทาย โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรมุสลิมไทย ซึ่งมีประมาณ 3.5 ล้านคน หรือราวร้อยละ 5 ของประชากรทั้งประเทศ  ประชากรกลุ่มนี้ยังเผชิญข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งรายได้ต่ำ ความยากจนสูง พฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพ และการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ไม่สอดคล้องกับวิถีศาสนาและวัฒนธรรม

ข้อมูลตลอดเวลากว่า 10 ปี สะท้อนว่า “มุสลิมไทยมีอัตราความยากจนสูงกว่าคนไทยโดยรวมเกือบสามเท่า” และแม้ตัวเลขจะมีแนวโน้มลดลง แต่ก็ลดลงช้ากว่าประชากรกลุ่มอื่น ความยากจนส่งผลต่อความสามารถในการเข้าถึงโภชนาการที่ดี การศึกษา และการรักษาพยาบาล ทำให้เกิดวงจรความยากจนและปัญหาสุขภาพที่สืบเนื่องยาวนาน ในขณะเดียวกัน มุสลิมไทยยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ทั้งการสูบบุหรี่ อาหารรสหวาน มัน เค็ม และข้อจำกัดด้านโครงสร้างชุมชน เช่น มัสยิดที่ผู้สูงอายุหรือผู้พิการเข้าถึงได้ยาก สถานการณ์ทั้งหมดนี้จึงต้องการ “ทางออกเฉพาะ” ที่เข้าใจวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อทางศาสนา

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) จึงพัฒนา แผนงานมุสลิมไทยเปี่ยมสุข ภายใต้การสนับสนุนของสำนักสนับสนุนประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนัก 9 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มุ่งสร้างสังคมมุสลิมที่มีสุขภาวะดี ผ่านสองยุทธศาสตร์สำคัญ คือ การลดความยากจน และ การลดปัจจัยเสี่ยง NCDs

1) ยุทธศาสตร์การลดความยากจน: ฟื้นพลังซะกาตให้เป็นระบบ  แผนงานฯ จะพัฒนาเครือข่ายกองทุนซะกาตระดับภูมิภาค และหนุนเสริมกองทุนซะกาตระดับชุมชน ให้สามารถบริหารจัดการเก็บ และแจกจ่าย     ซะกาต ได้อย่างถูกต้องตามหลักศาสนา เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทั้ง 8 ประเภทอย่างมีประสิทธิภาพ และปัญหาที่ต้องแก้ไขสำคัญ คือ การกระตุ้นองค์กรศาสนาที่มีบทบาทจำกัด ให้สามารถจัดเก็บซะกาตทรัพย์สินมากขึ้น โดยผลลัพธ์ที่คาดหวัง คือ ชุมชนมุสลิมต้นแบบมีระบบกองทุนซะกาตที่โปร่งใส เข้มแข็ง และขยายผลได้ ช่วยให้ครัวเรือนยากจนมีรายได้เพียงพอ เข้าถึงการศึกษา อาชีพ และบริการด้านสุขภาพอย่างเหมาะสม ลดความยากจนซ้ำซ้อน ลดวงจรความยากจนข้ามรุ่น

2) ยุทธศาสตร์ลดปัจจัยเสี่ยง NCDs

2.1 ลดการบริโภคยาสูบ : มัสยิดปลอดบุหรี่ – บ้านปลอดบุหรี่ แผนงานฯ จะทำงานทั้งด้าน “อุปสงค์และ “อุปทาน” ของการสูบบุหรี่ ได้แก่ การควบคุมแหล่งผลิต และร้านจำหน่ายยาสูบในชุมชน การให้ความรู้เกษตรกรและส่งเสริมพืชทดแทน การใช้มัสยิดเป็นฐานรณรงค์ผ่านคุฏบะฮฺวันศุกร์ประจำสัปดาห์ การพัฒนา “บ้านปลอดบุหรี่” ผู้นำศาสนา โรงเรียน และเยาวชนเป็นกำลังสำคัญของการรณรงค์ โดยเฉพาะในพื้นที่สงขลา สตูล นครศรีธรรมราช และตรัง นอกจากนี้จะขยายการเฝ้าระวัง “บุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชน” ซึ่งเป็นปัญหาใหม่ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

2.2 ลด หวาน มัน เค็ม : ยกระดับร้านอาหารมุสลิมตามหลักหะลาลัน ตอยยิบัน

จากข้อมูลสุขภาพ พบว่า โภชนาการของมุสลิมไทยมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะในยุคที่การบริโภคอาหารนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น แผนงานฯ จะใช้คุฏบะฮฺวันศุกร์เป็นช่องทางสร้างความรู้ด้านโภชนาการ และส่งเสริมมาตรฐาน Muslim Food Safety (MFS) โดยจะพัฒนาร้านอาหารนำร่องให้ลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม กระตุ้นการบริโภคอาหารหะลาลที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

2.3 ส่งเสริมการเข้าถึงมัสยิดของผู้สูงอายุและผู้พิการ แผนงานฯ จะสร้างต้นแบบ “ทางลาดและพื้นที่ประกอบศาสนกิจ” ในมัสยิด 8 แห่ง เพื่อให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างเท่าเทียม


ความคิดเห็น