ข่าวจากไทยรัฐ -20 มกราคม 2563
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (คผยช.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบของขวัญปีใหม่คนไทยสุขภาพดี “สนับสนุนการเข้าถึงระบบบริการเลิกบุหรี่แบบครบวงจรสำหรับผู้ประกันตน” โดยให้กรมควบคุมโรค ประสานกับสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ดำเนินการส่งเสริมการเข้าถึงระบบบริการเลิกบุหรี่แบบครบวงจรสำหรับผู้ประกันตน ด้วยยา Varenicline ช่วยเลิกบุหรี่ มีประสิทธิภาพสูงสุด มีผลข้างเคียงน้อยมาก
เพื่อเพิ่มโอกาสการเลิกบุหรี่สำเร็จได้มากขึ้น และมอบให้สำนักปลัด สธ.ดำเนินการพัฒนาให้สถานพยาบาลในสังกัดที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานประกันสังคม จัดตั้งคลินิกเลิกบุหรี่แบบครบวงจร ปัจจุบันมีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เป็นผู้สูบบุหรี่มากกว่า 2.9 ล้านราย โดยผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิก หรือเคยพยายามเลิกสูบแล้วประมาณ 1.8 ล้านราย หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของผู้สูบบุหรี่ทั้งหมดในประเทศ ซึ่งกลุ่มวัยแรงงาน วัยทำงานในระบบประกันสังคมถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่โอกาสในการเข้าถึงระบบบริการเลิกบุหรี่ยังน้อย มีการพัฒนาระบบบริการเลิกบุหรี่แบบครบวงจรจะทำให้ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทย ลดอัตราการเจ็บป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ของวัยแรงงาน
 |
| นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค |
ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า รูปแบบการสนับสนุนการเข้าถึงบริการการเลิกบุหรี่แบบครบวงจร ได้แก่
- เป็นผู้ป่วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
- มีความตั้งใจที่จะเลิกยาสูบ
- ได้รับการประเมินว่าติดหนัก คือสูบบุหรี่อย่างน้อย 20 มวน/วัน หรือสูบมวนแรกภายใน 30 นาทีหลังตื่นนอน
โดยจะคัดกรองในคลินิกเลิกบุหรี่.
ที่มา
https://www.thairath.co.th/news/local/1751481
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น