กำไรจากสินค้าอันตราย

บริษัทยาสูบข้ามชาติ (TTCs) ได้ย้ายจากประเทศที่พัฒนาแล้ว มุ่งสู่ตลาดในประเทศที่ยากจนกว่าและด้อยพัฒนา ซึ่งการควบคุมยาสูบไม่เข้มงวดเท่าและที่ซึ่งมีการใช้ยาสูบสูงอย่างมีนัยสำคัญในหมู่ผู้ชายและต่ำอย่างน่าดึงดูดใจในหมู่ผู้หญิง 

บริษัทบุหรี่ข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ British American Tobacco (BAT), Philip Morris International (PMI) และ Japan Tobacco International (JTI) พวกเขาเข้าควบคุมตลาดบุหรี่ในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ 

ในปี 2016 ผู้ผลิตยาสูบหกประเทศในกลุ่มอาเซียน (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม) ผลิตบุหรี่ได้เกือบ 586 พันล้านมวน สองประเทศในอาเซียน (อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ของโลก

ในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในปี 2020 บริษัทยาสูบข้ามชาติยังคงขายบุหรี่ของตนในขณะที่ยอดขายบุหรี่เกือบทุกประเภทเพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่าการระบาดใหญ่ทำให้ธุรกิจของพวกเขาแค่หยุดชะงักชั่วคราว แต่กลายเป็นว่าพวกเขากลับมาและยังทำกำไรได้

Philip Morris International (PMI) รายงานว่าตลอดทั้งปี บริษัทขายบุหรี่มวนได้มากกว่า 628 พันล้านชิ้น ในปี 2020 ลดลง 11% จาก 706 พันล้านชิ้นในปี 2019 

ขณะที่ประธานของ BAT (British American Tobacco) ได้เฉลิมฉลองผลงานของบริษัทในปี 2020 ด้วยกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็น 9.9 พันล้านปอนด์ (จาก 9 พันล้านปอนด์ในปี 2019) ในภูมิภาคอาเซียน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนามยังคงเป็นตลาดหลักของ BAT 

ส่วน JT Group (Japan Tobacco International) รายงานทางการเงินในปี 2020 ระบุว่าธุรกิจยาสูบระหว่างประเทศของ JT มียอดขาย 435.7 พันล้านหน่วยในปี 2020 ซึ่งน้อยกว่าปี 2019 ร้อยละ 2.3 

Imperial Brands (Tobacco) ซึ่งเป็นบริษัทในสหราชอาณาจักรในการประชุมสามัญประจำปีเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มีรายรับสุทธิเพิ่มขึ้น 1.8% ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ การจำกัดการเดินทาง และการเว้นระยะห่างทางสังคม 

บริษัท เกาหลี,  KT & G ได้เพิ่มการส่งออกอีก 23 แห่งไปยังพอร์ตต่างประเทศ ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2020 พวกเขาขายได้ 24.6 พันล้านแท่ง รวมถึง 12.7 พันล้านแท่งในต่างประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.9 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

KT&G เข้าซื้อกิจการผู้ผลิตยาสูบรายใหญ่อันดับ 6 ของอินโดนีเซียชื่อ Trisakti ในปี 2011 จำนวนการขายบุหรี่ของ KT&G ในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น จาก 4.9 พันล้านแท่งในปี 2018 เป็น 5.6 พันล้านแท่งในปี 2019 

ขนาดตลาดยาสูบทั่วโลกมีมูลค่า 932.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 และคาดว่าจะขยายตัวในอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) 1.8% จากปี 2021 ถึง 2028 โดยพบว่าจำนวนผู้สูบบุหรี่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นทั่วโลก ระดับ แนวโน้มนี้ได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบปรุงแต่งต่าง ๆ เช่นบุหรี่กานพลูและซิการ์เมนทอล

อุตสาหกรรมยาสูบไม่ยอมให้การระบาดครั้งใหญ่มาจำกัดธุรกิจการขายและผลกำไรจากผลิตภัณฑ์อันตรายของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีแผนที่จะเพิ่มยอดขายทั้งบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ ในปี 2021 ความจำเป็นในการเพิ่มความพยายามในการควบคุมยาสูบจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน

ที่มา :
http://aseantobaccocontrolatlas.org/chapters/ch1/
https://tobaccowatch.seatca.org/index.php/2021/03/02/tobacco-companies-thrived-during-covid-19-pandemic/
https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/tobacco-market

จากสุขสาระ ฉบับที่ 208 เดือนกรกฎาคม 2564
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)