เรื่องยาสูบในฟิลิปปินส์

ยาสูบถูกนำมาใช้ในฟิลิปปินส์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 ในช่วงยุคอาณานิคมของสเปนเมื่อชาวออกัสติเนียนนำเมล็ดยาสูบซิการ์ไปยังอาณานิคมเพื่อการเพาะปลูกในปี ค.ศ. 1686 วิลเลียม แดมเปียร์ไปเยือนมินดาเนาและสังเกตว่าการสูบบุหรี่เป็นประเพณีที่แพร่หลาย 

ในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 มีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น เมื่อเภสัชกรชาวฟิลิปปินส์ชื่อ Domingo Aviado ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาคัดค้านรายงานที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่กับผลเสียต่อสุขภาพ ในช่วงเวลานั้นการบริโภคบุหรี่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ Philippine Daily Express ระบุว่า Aviado ได้ “ค้นคว้าวิจัยอย่างลึกซึ้ง โดยพยายามหักล้างคำกล่าวอ้างของบรรดาแพทย์แห่งสหรัฐฯ ต่อการสูบบุหรี่ และระบุว่า ดร. Aviado อาจพิสูจน์ได้ว่าบุหรี่ไม่เพียงแต่ปลอดภัย แต่ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย”  

เขายังแย้งว่าชาวฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเป็นมะเร็งน้อยกว่าชุมชนอื่นๆ และมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่าพลเมืองสหรัฐฯ ความคิดเห็นของเขาถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในปี 1975 โดยมีพาดหัวข่าว เช่น “หมอหักล้างความเชื่อมโยงของการสูบบุหรี่กับความดันโลหิตสูง”

ในปี 1975 รายงานระบุว่า Aviado ได้รับเงิน 22,685.00 เหรียญสหรัฐเป็นค่าธรรมเนียมการให้คำปรึกษาจากอุตสาหกรรมยาสูบ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในบรรดาที่ปรึกษาแปดคน

อุตสาหกรรมยาสูบของฟิลิปปินส์ทำงานอย่างเป็นขั้นตอนร่วมกับภาคีระดับนานาชาติเพื่อปฏิเสธความเชื่อมโยงระหว่างการสูบบุหรี่กับโรคภัยไข้เจ็บ ในปี 1983 เฆซุส อาซูริน รัฐมนตรีกระทรวง สาธารณสุขกล่าวว่าการสูบบุหรี่เป็น “สาเหตุการตายลำดับที่ห้าในฟิลิปปินส์” 

ในปี 1994 PMI ได้มอบหมายให้บริษัทโฆษณา Leo Burnett เผยแพร่ “การศึกษาที่ชี้ไปที่สาเหตุอื่นๆ ที่เป็นไปได้ของมะเร็งปอด” 

ในปี 1995 กรมอนามัยได้ร่วมกับผู้สนับสนุนด้านสุขภาพและกลุ่มพลเมืองเพื่อสนับสนุนกฎหมายควบคุมยาสูบที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ถูกขัดขวาง โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติบางคน

 มีการตราพระราชบัญญัติว่าด้วยการควบคุมยาสูบขึ้นในปี 2003 โดยสาระสำคัญจะควบคุมการขายและการใช้ยาสูบทั่วประเทศ และจะห้ามโฆษณายาสูบทุกรูปแบบในสื่อภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2008 ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกีฬาและโครงการการศึกษาของอุตสาหกรรมยาสูบ 

อย่างไรก็ตาม โฆษณาบุหรี่ยังได้รับอนุญาตทางวิทยุและโทรทัศน์จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2007 และในโรงภาพยนตร์และนอกอาคารจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2007 การโฆษณาทางสื่อทุกชนิด จะถูกห้ามภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2008 ยกเว้นภายในบริเวณจุดขาย สถานประกอบการค้าปลีก 

ฟิลิปปินส์ เป็นผู้บริโภคบุหรี่รายใหญ่อันดับที่ 15 ของโลก และเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ผู้ใหญ่ (ชาย) ประมาณ 54% และผู้ใหญ่(ผู้หญิง) 11% สูบบุหรี่ รายงานระบุว่าเยาวชนชายประมาณ 37% และเยาวชนหญิง 18% สูบบุหรี่อย่างน้อยทุกเดือน น่าตกใจที่วัยรุ่นฟิลิปปินส์เกือบหนึ่งในห้าเริ่มสูบบุหรี่ก่อนอายุ 10 ปี เอกสารของรัฐบาลปี 1999 เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ คำนวณว่าชาวฟิลิปปินส์สองคนเสียชีวิตทุก ๆ ชั่วโมงจากการใช้ยาสูบ 

ในปี 2010 กรมอนามัยได้ออกคำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้รวมฉลากเตือนแบบกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์ และห้ามการใช้คำอธิบายที่ทำให้เข้าใจผิด เช่น "อ่อน" และ "เบา" บนบรรจุภัณฑ์และฉลากของผลิตภัณฑ์ยาสูบตามมาตรา 11 ของ WHO FCTC 

ภาพคำเตือนบนซองบุหรี่

ในเดือนมิถุนายน 2014 คณะกรรมการฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมายที่เรียกว่า "ดึงดูดผู้ผลิตบุหรี่ให้พิมพ์รูปภาพและภาพประกอบที่เตือนถึงอันตรายของการสูบบุหรี่บนซองบุหรี่" ภาพดังกล่าวจะใช้พื้นที่ครึ่งล่างของแผงด้านหน้าและด้านหลังของซองบุหรี่ และอาจรวมถึงรูปภาพของปอดและลำคอที่เป็นมะเร็งด้วย 

ในเดือนมีนาคม 2016 การบังคับใช้กฎหมายเตือนสุขภาพด้วยภาพกราฟิกมีผลบังคับใช้โดยกำหนดให้บริษัทยาสูบต้องพิมพ์คำเตือนด้านสุขภาพแบบกราฟิกสิบสองชุดบนบรรจุภัณฑ์บุหรี่ที่จำหน่ายในประเทศ กฎและข้อบังคับที่บังคับใช้ของกฎหมายเรียกร้องให้บรรจุภัณฑ์บุหรี่ทั้งหมดที่ขายในตลาดมีคำเตือนแบบกราฟิกที่ครอบคลุมครึ่งล่างของซองภายในเดือนพฤศจิกายน 2016

วันที่ 16 พฤษภาคม 2017 ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตออกคำสั่งผู้บริหารหมายเลข 26 ที่ตอกย้ำกฎหมายควบคุมยาสูบ

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตออกคำสั่งผู้บริหารหมายเลข 26 ที่ตอกย้ำกฎหมายควบคุมยาสูบ

ที่มา :
https://tobaccocontrol.bmj.com/content/13/suppl_2/ii71
https://en.wikipedia.org/wiki/Smoking_in_the_Philippines

จากสุขสาระ ฉบับที่ 208 เดือนกรกฎาคม 2564
มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)