องุ่นบราซิล หรือ องุ่นต้น (โปรตุเกส: jabuticaba; ชื่อวิทยาศาสตร์: Plinia cauliflora) เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ชมพู่ (Myrtaceae) เป็นไม้โตช้า ไม่ผลัดใบ เปลือกต้นสีน้ำตาลเทา ใบเดี่ยว ใบอ่อนเป็นสีแดง แก่แล้วเป็นสีเขียว ดอกเป็นดอกช่อ สีขาว เป็นต้นไม้ประหลาด คือผลมีลักษณะคล้ายองุ่น กลมรี ออกเป็นกระจุกแน่นตามลำต้น และกิ่งก้าน ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่เป็นสีม่วงเกือบดำ ลักษณะคล้ายผลตะขบไทย มีเมล็ดอยู่ข้างใน
ฌาบูชีกาบา มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของ ประเทศบราซิล ซึ่งมีการปลูกในเชิงเศรษฐกิจอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในรัฐ São Paulo มีชาวสวนปลูกต้นองุ่นบราซิลถึง 204 ราย และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี ดังนี้
ปี พ.ศ.2532 จำนวนผลผลิตขององุ่นบราซิลในรัฐ São Paulo มีการซื้อขายมากถึง 921.5 ตัน และเพิ่มมากถึง 4,142 ตัน ในปี พ.ศ.2541 ส่วนในปี พ.ศ. 2551 ก็มีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นตัน
ปี พ.ศ. 2546 ในสหรัฐอเมริกา มีผลผลิตขององุ่นบราซิลอยู่ที่ 63 ตัน และมีมูลค่าการซื้อขาย 212,000 ดอลลาร์ ส่วนในปี พ.ศ. 2551 มีผลผลิตอยู่ที่ 149.6 ตัน และมีมูลค่าการซื้อขาย 528,000 ดอลลาร์
ฌาบูชีกาบา เป็นหนึ่งในผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในไทยมากนัก รสชาติของผลไม้ชนิดนี้ มีรสชาติสัมผัสที่ดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยเสริมสร้างกระดูกได้ อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการอักเสบบริเวณต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ฌาบูชีกาบา มีสารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะสารแอนโทไซยานิน โดยส่วนใหญ่อยู่ในเปลือกของผลไม้ ผิวสีม่วงของผลไม้ประกอบด้วยแทนนิน ซึ่งเป็นโพลีฟีนอลที่ละลายน้ำได้จำนวนมาก ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงทางโภชนาการบางประการว่าดีหรือไม่ดีต่อมนุษย์ การศึกษาบางชิ้นระบุว่าแทนนินมีฤทธิ์เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งในบางรายเมื่อบริโภคในปริมาณมากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ อย่างไรก็ตาม การศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าแทนนินจากพืช เช่น ที่พบในฌาบูชีกาบา มีศักยภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และเชื่อมโยงกับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งในด้านการรักษาและการป้องกันมากมาย
ชาวบราซิล นิยมรับประทานฌาบูชีกาบา สด ๆ ด้วยมือ เพียงแค่บีบเนื้อออกจากเปลือกของผลไม้โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ นอกจากนี้ยังนำไปทำแยม แยมผิวส้ม และแยมอื่น ๆ ได้ ยังนิยมคั้นเพื่อทำน้ำผลไม้สดอีกด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น